X

สสจ.ชัยภูมิสั่งดำเนินคดี ร.ต.ท.เมืองปทุมรู้ตัวเองติดโควิดยังนำแพร่แม่ยายพ่อตาป่วยซ้ำหนักเพิ่มอีก!(คลิป)

ชัยภูมิ – ล่าสุดนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ มอบหมายให้นิติกรสำนักงานร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ เข้าแจ้งความเอาความผิดกับ ร.ต.ท.เมืองปทุมธานี ที่รู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 แล้ว กลับบ้านภรรยาที่ จ.ชัยภูมิ จนนำเชื้อมาติดญาติคนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีทั้งภรรยา แม่ยาย พ่อตา ตรวจพบติดเชื้อโควิดร่วมไปด้วยแล้วขณะนี้ทั้งหมดรวม 4 ราย ด้านล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดภายในจังหวัดยังพุ่งสะสมแล้วกว่า 8,106 ราย เสียชีวิตรายวันเพิ่มอีก 1 ราย รวมดับแล้ว 68 ศพ  ยังต้องจับตาเข้มคลัสเตอร์ปิดล็อกดาวน์ชุมชนขี้เหล็กใหญ่ ยังป่วยเพิ่มอีก 2 รายเป็นพนักงานเก็บขยะ ทม.!

( 31 ส.ค.64 ) ล่าสุดวันนี้ กรณี ร.ต.ท.ติดโควิด นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ได้เปิดเผยถึง กรณีเมื่อวันที่ 28 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ได้มี ร.ต.ท  สังกัด สภ.อ.เมืองปทุมธานี ที่มีผลรู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 64 ที่ รพ.ตำรวจ ได้ขับรถกลับมาบ้านภรรยาที่ชัยภูมิ บ้านเลขที่ 66 ม.11 บ้านคร้อ ต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ อ้างว่าสามารถมารักษาอาการป่วยโควิดของตนเองได้ที่บ้านดังกล่าวเพื่อมาช่วยดูแลแม่ยายพ่อตาที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่มีคนช่วยดูแลได้จำเป็นต้องมาอยู่ร่วมกับญาติคนในบ้านดังกล่าวรวม 5 คน มีทั้งภรรยา แม่ยาย พ่อตา และพี่ชายภรรยา และเมื่อวันที่ 26 ส.ค.64 ลูกชายที่กรุงเทพฯ ได้โทรมาแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบเรื่อง เร่งประสานให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมโรคติดต่ออำเภอและจังหวัดตรวจสอบ ว่าพ่อซึ่งเป็น ร.ต.ท.รายนี้ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทำให้เกิดเรื่องวุ่นแตกตื่นให้กับชาวบ้านในพื้นที่ในหมู่บ้านใกล้เคียงไปทั้งหมู่บ้าน

จนทางผู้ใหญ่บ้านคร้อ หมู่ 11 ต.นาฝาย ได้ประสานนายอนุชา  เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ และประสาน รพ.สต.ลงพื้นที่ บ้านดังกล่าวที่มีผู้อาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมดรวม 5 คน  มีทั้งพ่อตาป่วยติดเตียง แม่ยาย ญาติ ภรรยาและตัว ร.ต.ท.ที่เดินทางมาจาก สภ.เมืองปทุมธานี และเมื่อวันที่ 27 ส.ค.64  ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันทาง จนท.ให้ตรวจโควิด-19 แล้ว 2 คน คือแม่ยายและญาติที่อยู่ด้วยกัน ผลตรวจออกมาแม่ยายเป็น positive ติดโควิด-19 ส่วนญาติที่อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันเป็น neg ซึ่งอีก 7 วัน ระหว่างนี้ให้กักตัวอยู่ที่บ้านรอดูอาการ 14 วัน และจะต้องเข้าตรวจโควิด-19 ซ้ำอีก 2 ครั้ง จนเป็นที่แน่ชัดอีกระยะก่อน

ส่วนพ่อตาเป็นผู้ป่วยติดเตียง ยังไม่ได้เข้าตรวจโควิด-19 ส่วนภรรยาและ ร.ต.ท. มงคล ผู้ป่วยโควิด-19 แจ้งว่าตนเองเป็นผู้ป่วยโควิด-19ในกลุ่มสีเขียว ขอมารักษาตัวอยู่ที่บ้านพร้อมภรรยา  และยังไม่ยอมเข้าตรวจโควิด-19 อีกครั้ง และเก็บตัวอยู่ในบ้าน ก่อนที่ทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.นาฝาย ผู้ใหญ่บ้าน ได้พยายามจัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุย จนถึงเวลา 20.30 น.วันที่ 27 ส.ค.64 ทั้งตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.นาฝาย ผู้นำชุมชน และนายแพทย์จาก รพ.ชัยภูมิ ได้เข้าพบกับตัว ร.ต.ท.พูดคุยกันอีกครั้ง จนถึงเวลา 21.00น. ทั้งตำรวจ ร.ต.ท.เมืองปทุม และตัวภรรยา ที่มีผลตรวจว่าพบติดโควิด-19 แล้ว ได้ยอมออกจากบ้านดังกล่าวขึ้นรถพยาบาลโรงพยาบาลชัยภูมิ ไปรักษาตัวผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลชัยภูมิแล้ว ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้านในละแวกบ้านใกล้เคียง

และต่อมาทางชุดเจ้าหน้าที่ในวันที่ 28 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ ได้เข้าไปช่วยเหลือนำทั้งตัวแม่ยาย และพ่อตา ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 และช่วยเหลือดูรักษาอาการป่วยติดเตียง ซึ่งผลตรวจยืนยันก็พบว่าติดโควิด-19 เพิ่มอีกทั้ง 2 คนด้วยแล้ว ซึ่งรวมแล้วจากการเดินทางมาจาก จ.ปทุมธานี เพื่อกลับบ้านที่ จ.ชัยภูมิ ของ ร.ต.ท.รายนี้ที่รู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 แล้ว มาอยู่ร่วมกับคนในบ้านหลังเดียวกันกับญาติดังกล่าวรวม 5 คน พบติดโควิด-19 แล้วรวม 4 คน ส่วนพี่ชายภรรยาที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน ผลตรวจครั้งแรกผลเป็นลบยังไม่พบเชื้อ อยู่ระหว่างถูกกักตัว 14 วัน และรอตรวจหาโควิด-19 อีกยืนยันซ้ำอีกระยะ หากไม่ติดจึงจะสามารถให้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติกับคนในชุมชนได้ต่อไป

ซึ่งกรณีของ ร.ต.ท.รู้ว่าตัวเองติดเชื้อแล้วที่เกิดขึ้น นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าผู้ป่วยที่รู้ว่าตัวเองป่วยแล้ว ยังเดินทางมาจากต่างจังหวัดเสี่ยงแล้วไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ สสจ.ชัยภูมิ ได้มอบให้ฝ่ายนิติกรประจำสำนักงานร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ ดำเนินการเข้าแจ้งความเอาความผิดกับ ร.ต.ท.เมืองปทุมธานี รายนี้ตามกฎหมายต่อไปด้วย ตามความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 34 ที่ไม่ยอมแยกตัวเข้ารับการรักษา หากเป็นข้าราชการที่ควรจะรู้กฎข้อระเบียบดีอยู่แล้ว ยังทำเสียเองก็ต้องถือว่ามีความผิดเป็น 2 เท่าทั้งวินัย และอาญา หนักกว่าคนธรรมดาด้วย และไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งถึงแม้จะมีหนังสือส่งตัวมา ก็ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สถานที่ปลอดภัยตามระเบียบคำสั่งของจังหวัดชัยภูมิ ด้วยหากไม่เข้ารับการรักษาจะเป็นการจงใจนำเชื้อมาติดให้กับคนอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ในทุกกรณีจากนี้ต่อไปด้วย

ขณะที่ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ล่าสุดวันนี้(31ส.ค.64)  ยังพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 50 ราย ติดเชื้อในจังหวัดยังสูงรวมกว่า 18 ราย ซึ่งยังต้องจับตาติดตามสถานการณ์สั่งล็อกดาวน์ปิดชุมชนขี้เหล็กใหญ่ บางส่วนใน 5 คุ้มหลักมาต่อเนื่องเป็นวันที่สาม เพื่อเร่งตรวจคัดกรองหาเชื้อคนในชุมชนกว่า 520 ครอบครัว ล่าสุดยังพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย ซึ่งเป็นพนักงานเก็บขยะของเทศบาลเมืองชัยภูมิ และในส่วนผู้ป่วยมาจากต่างจังหวัดเริ่มลดลงจากที่เคยมีสูงกว่าวันละหลักมากกว่าหลักร้อยรายต่อวัน วันนี้ก็เริ่มลดลงเหลือเพิ่ม 32 ราย/วัน  เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 68 ราย ผู้ป่วยสะสมแล้ว 8,106 ราย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]