ชัยภูมิ – ผวจ.-ทีมปศุสัตว์เร่งระดม Kickoff (คิกออฟ) กำจัดเชื้อพร้อมกันทั้งจังหวัด ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวทุกประเภท ทั้งวัวเนื้อ วัวนม วัวพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และกระบือ ที่จังหวัดชัยภูมิมีการเลี้ยงมากเป็นอันดับ 6 ของภาคอีสาน มากกว่า 9 หมื่นกว่าตัว เร่งช่วยกันทำความสะอาด กำจัดแมลงพาหะ ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเข้มทุกพื้นที่เสี่ยงด่วน!
( 28พ.ค.64 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ มีรายงานด่วน ที่ด้านหน้าสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ โดยมีนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย นางศรีสมัย โชติวานิช ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกันสั่งระดมปล่อยแถวขบวนรถรณรงค์ Kickoff หรือ คิกออฟ ในการช่วยกันเร่งออกกำจัดโรคลัมปีสกิน ในทุกพื้นที่ ทั่วทั้ง 16 อำเภอ ของจังหวัดชัยภูมิ
หลังล่าสุดพบโรคลัมปีสกิน หรือโรคอุบัติใหม่ ที่ประเทศไทยยังไม่มีวัคซีนป้องกัน มีการแพร่ระบาดตามฟาร์มเลี้ยงโคหกระบือ หรือวัว ควาย ใน จ.ชัยภูมิ แล้วใน 4 อำเภอ อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง อ.หนองบัวระเหว อ.คอนสาร และ อ.เกษตรกรสมบูรณ์ ซึ่งมีวัวล้มป่วยแล้วกว่า 20 ตัว และขณะนี้ต้องจำเป็นเร่งป้องกันไม่ให้เชื้อโรคลัมปีสกิน ไม่ให้แพร่ระบาดไปมากนี้เป้นการด่วนด้วย ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้ออกประกาศกำหนดเขตโรคระบาดชนิดโรคลัมสกิน ในโค กระบือ ทุกพื้นที่ทั้งจังหวัดแล้วในวันนี้ด้วย และห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์ หรือซากสัตว์เข้าออก จ.ชัยภูมิ เว้นแต่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ด้วย
ซึ่งรวมสถานการณ์การระบาดในทั่วประเทศ มากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน เริ่มพบป่วยมากอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด จ.อุดรธานี และล่าสุดที่ จ.ชัยภูมิ
โดยโค กระบือ ที่เสี่ยงจะมีอาการป่วยด้วยโรคลัมปีสกิน ลักษณะคล้ายเป็นโรคผิวหนัง เป็นจุดทั่วทั้งลำตัว และมีน้ำลายยืดเป็นฟอง ขาทั้ง 4 ข้างอ่อนแรง ไม่ยอมกินอาหารและน้ำ มีตุ่มนูนแข็งขึ้นตามลำตัว ต่อมน้ำเหลืองโต มีไข้สูง สัตว์มีอาการซึม หรือมีอาการตาหรือขาบวมอักเสบ ขณะนี้การรักษาทำได้เพียงรักษาไปตามอาการป่วย หากรักษาไม่ทันจะทำให้วัว หรือควาย ตายอย่างรวดเร็วตามมาได้ ซึ่งจะสร้างความสูญเสียให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยง และเกิดความเสียหายด้านเศรษฐกิจของประเทศตามมาอีกจำนวนมากได้
ซึ่งโรคนี้ติดต่อผ่านพาหะหลักจากแมลงดูดเลือด โดยเฉพาะยุง เห็บ เหลือบ หรือแมลงวัน ซึ่งแมลงเหล่านี้สามารถบินได้ไกลถึง 50 กิโลเมตร ดังนั้นแมลงอาจจะกินเลือดวัว ควาย ในพื้นที่หนึ่งและบินไปกระจายเชื้อในพื้นที่ต่างๆ ได้ง่ายอีกจำนวนมากด้วย
โดยครั้งนี้นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า จังหวัดชัยภูมิ มีเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวทุกประเภท ทั้งวัวเนื้อ วัวนม วัวพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และกระบือ หรือควาย มากเป็นอันดับ 6 ของภาคอีสาน ปัจจุบันมีอยู่ในพื้นที่จำนวนมากกว่า 9 หมื่นตัว ที่ขณะนี้ จ.ชัยภูมิ เองก็เริ่มพบมีวัวป่วยด้วยโรคลัมปีสกินแล้วจำนวนมากกว่า 20 ตัวแล้ว ในพื้นที่ 4 อำเภอ ซึ่งทางเกษตรกรผู้เลี้ยงวัว ต้องเร่งช่วยกันป้องกันโดยฉีดยาฆ่าเชื้อโรครอบบริเวณคอก กำจัดแมลงพาหะนำโรค และกางมุงให้แม่วัวในคอกนอนทุกคืนในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมดไว้ก่อนด้วย
“เมื่อพบวัว ควายที่เลี้ยงไว้ป่วย ต้องแยกสัตว์ที่แสดงอาการออกจากสัตว์ตัวอื่นโดยเร็วทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาและกักกันโรค ควบคู่กับการกำจัดพาหะแมลงดูดเลือดด้วยการทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงให้บ่อยครั้งมากขึ้น และใช้สารกำจัดแมลงละลายน้ำ ฉีดพ่นบริเวณตัวสัตว์และบริเวณคอกในฟาร์มอย่างสม่ำเสมอ โดยห้ามรับประทานโคหรือกระบือที่ป่วยด้วยโรคดังกล่าวนี้เด็ดขาด และหากพบว่าโค กระบือเสียชีวิต จะต้องเร่ง จนท.เกี่ยวข้อง และรีบทำการฝังดินและปิดทับด้วยปูนซีเมนต์เท่านั้น ที่จะช่วยหยุดการแพร่ระบาดได้
