X

แกะรอยปมลึกหนุ่มคลั่งยาบ้าสุดหลอนหนักก่อนลงมือไล่ตีตร.ปางตาย!

ชัยภูมิ – สุดสลดหลังผู้ต้องหารายนี้เคยตกเป็นเหยื่อทาสยาบ้ามานานกว่า 5 ปี ในตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทั้งเคยก่อนเหตุประวัติโชกโชนมักมีเรื่องทะเลาะวิวาทไล่ตีไล่ต่อยชาวบ้านในพื้นที่ไปทั่ว ก่อนที่จะก่อเหตุพยายามข่มขืนสาวในหมู่บ้านจนต้องติดคุกกว่า 2 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน จนมาถึงครั้งนี้เสพยาบ้าสุดหลอนหนัก ก่อนนำจม.เขียนด้วยลายมือตัวเองไปส่งไว้ในกล่องรับร้องทุกข์ที่หน้าบ้าน สมาชิก อบต.ประจำหมู่บ้าน “พบข้อความสุดคลั่งจะฆ่ามันให้หมด(ภาษาอีสาน”เบิด)ประเทศ ก่อนที่จะก่อเหตุไล่ทำร้ายพ่อและชาวบ้านไปทั่ว จนมีการแจ้งจนท.ตร.โดยมี ร.ต.ต.รายนี้มาช่วยระงับเหตุแต่เกิดพลาดท่าถูกหนุ่มคลั่งใช้ไม้หน้าสามไล่ตีจนหมดสติได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ล่าสุดทางสตช.ได้ขอส่งตัวไปผ่าตัดด่วนที่รพ.ตำรวจในวันนี้แล้วพร้อมมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจจากทั้ง ผบ.ตร. รวมทั้งนายกพลเอกประยุทธิ์และพลเอกประวิตรฯรองนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ด้านผู้ต้องหารายนี้เองได้เสียชีวิตระหว่างการถูกควบขังในเวลาต่อมาไม่นานเมื่อช่วงเช้าวันนี้ 8 ต.ค.61 ที่ผ่านมา!!!!

1แกะรอยปมลึก!หนุ่มคลั่งยาบ้าสุดหลอนหนัก

จนล่าสุดเมื่อช่วงเวลา 13.00 -16.00 น.วันที่ 8 ต.ค.61 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุภากร  คำสิงห์นอก รักษาการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้ขึ้นฮอร์บินด่วนจากสน.ตร.ภาค 3 ลงพื้นที่จ.ชัยภูมิ เพื่อเรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต่อกรณีที่เกิดขึ้นพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพจน์  ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ ณ ห้องประชุมสภ.ภักดีชุมพล ท้องที่เกิดเหตุอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

2แกะรอยปมลึก!หนุ่มคลั่งยาบ้าสุดหลอนหนัก

โดยละเอียดพร้อมกับได้เชิญตัวแทนญาติของผู้ต้องหาคลั่งยาทำร้ายตำรวจจนบาดเจ็บสาหัสครั้งนี้ เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตร.ภาค 3 หลังทราบข่าวว่า นายวายุ  ปัญญาประสิทธิ์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหารายดังกล่าวได้เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

3แกะรอยปมลึก!หนุ่มคลั่งยาบ้าสุดหลอนหนัก

หลังได้ก่อเหตุคลั่งยาไล่ทำร้าย ร.ต.ต.วิทยา   อาจหาญ อายุ 49 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.ภักดีชุมพล (ร้อยเวร 20) ระหว่างรับแจ้งจากชาวบ้านและบิดาของผู้ต้องหารายนี้เอง ให้ช่วยนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรีบไประงับเหตุที่ผู้ต้องหาคือนายวายุฯเองเกิดอาการเมายาบ้าคุ้มคลั่งใช้ไม้ไล่ตีคนในหมู่บ้านไปทั่ว เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 7 ต.ค.61) จนทำให้ร.ต.ต.วิทยาฯ ถูกนายวายุ   กัญญาประสิทธิ์  อายุ 27 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 1 บ้านเหล่มทอง ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล ชัยภูมิ ใช้ไม้หน้าสามไล่ตีร.ต.ต.วิทยา จนหมดสติได้รับบาดเจ็บสาหัสเลือดคลั่งในสมองและถูกนำตัวส่งรพ.ภักดีชุมพล แต่อาการสาหัสได้ถูกส่งต่อมาที่รพ.ชัยภูมิ

จนล่าสุดเองทางรพ.ชัยภูมิ เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 8 ต.ค.61 ที่ผ่านมาได้จัดส่งตัวต่อให้ ร.ต.ต.วิทยาฯไปถึงรพ.ตำรวจ เพื่อช่วยจัดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจัดทีมผ่าตัดสมองด่วน โดยมีพล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นตัวแทนเข้าเยี่ยมอาการ ร.ต.ต. วิทยา  อาจหาญ รองสวป. สภ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส จากกรณีเข้าระงับเหตุการณ์ชายเมายาบ้าคลุ้มคลั่ง อาละวาด ที่บริเวณถนนสายวังใหญ่-หนองบัวเเดง บ้านแหลม ต.บ้านแหลม อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 61 ที่ผ่านมา ซึ่งได้สั่งการให้ส่งตัวผู้บาดเจ็บ มารับการรักษาพยาบาลยังโรงพยาบาลตำรวจ เป็นการด่วน ทั้งนี้ยังเป็น ผู้แทนมอบแจกันดอกไม้จาก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นรม.และ พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กลาโหม โดยมีภรรยาและบุตรของผู้บาดเจ็บเป็นผู้รับมอบ ณ โรงพยาบาลตำรวจ ปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งอาการของร.ต.ต.รายนี้ยังน่าห่วงต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. เพื่อรอทำการผ่าตัดสมองด่วนเพราะมีเลือดคลั่งในสมองเป็นจำนวนมาก เพื่อช่วยยื้อชีวิตนายตำรวจรายนี้ให้ได้โดยด่วนต่อไป

โดยครั้งนี้หลังจากการลงพื้นที่จ.ชัยภูมิเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเบื้องต้น ของพล.ต.ต.สุภากร  คำสิงห์นอก รักษาการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า กรณีที่มีญาติบางส่วนยังติดใจการเสียชีวิตของผู้ต้องหารายนี้ ก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ แต่ผลจากการตรวจสอบเบื้องต้นขณะเกิดเหตุที่หนุ่มคลั่งรายนี้ได้ใช้ไม้ไล่ตีร.ต.ต.วิทยาฯ จนล้มลงหมดสติแล้ว ก่อนที่จะมีเพื่อนตำรวจที่มาด้วยอีกนายพร้อมทั้งพ่อของผู้ต้องหารายนี้เองคือ นายประดิษฐ์  กัญญาประสิทธิ์ อายุ 50 ปี เอง และชาวบ้านใกล้เคียงอีก 1-2 คนวิ่งออกมาช่วยกันจับตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ไว้และใช้กำลังเข้าทุบตีผู้ต้องหารายนี้ให้หยุดคลั่งเพื่อจับตัวหมอบลงกลับพื้นถนน ตามภาพคลิปที่มีชาวบ้านใกล้เคียงถ่ายไว้ได้ จนผู้ต้องหารายนี้ได้รับบาดเจ็บก่อนถูกจับมัดมือเท้ามาควบคุมตัวให้สงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ซึ่งเบื้องต้นสาเหตุที่ไม่มีการส่งตัวผู้ต้องหารายนี้ไปรักษาตัวที่รพ.ภักดีชุมพลทันที ก็เนื่องด้วยทางผู้เป็นบิดาผู้ต้องหารายนี้เอง มีความประสงค์อยากให้มีการควบคุมตัวบุตรชายที่ยังมีอาการคุ้มคลั่งไว้ในห้องขังเพื่อช่วยสงบสติอารมณ์ก่อน

 

ก่อนที่ทางญาติเองที่มีทั้งนางสาวสถิต  กัญญาประสิทธิ์ อายุ 34 ปี มีศักดิ์เป็นอาสาวผู้ต้องหาและนายภัทราวุฒิ  แตงหอม อายุ 45 ปี มีศักดิ์เป็นอาเขยของผู้ต้องหาอีกคน จะนำยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบมาให้ผู้ต้องหากินเพื่อช่วยแก้อาการบาดเจ็บ และระบุว่าผู้ต้องหาไม่กินยาแก้อักเสบกินแต่ยาแก้ปวดเข้าไปเท่านั้น

และติดว่าอ้างว่าเหน้าที่ตำรวจสภ.ภักดีชุมพล ทำไม่ไม่ส่งหลานไปรักษาที่รพ.ทันที แต่ทำไมนำตัวมาควบคุมไว้ในห้องขัง เรื่องนี้อยากให้ทางญาติอาทั้ง 2 ท่าน ไปถามต่อนายประดิษฐ์  กัญญาประสิทธิ์ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นบิดาของผู้ต้องหาเอง ที่ยังไม่อยากให้พาผู้ต้องหารายนี้ไปโรงพยาบาลเอง เพราะกลัวว่าไปแล้วจะไปก่อเหตุไล่ทำร้ายคนทั่วโรงพยาบาลได้อีก จึงขอให้ช่วยควบคุมตัวสงบสติไว้ในห้องขังโรงพักไปก่อนเท่านั้น

แต่เกิดต่อมามีรายงานจากพนักงานสอบสวนว่าพบผู้ต้องหามีอาการชักเกร็ง จึงช่วยกันนำตัวไปส่งรักษาตัวที่รพ.ภักดีชุมพล แต่ผู้ต้องหาได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตก็ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอให้มีการส่งศพผู้ต้องหารายนี้ไปผ่าตรวจพูสูจน์ที่รพ.ตำรวจ เพื่อยืนยันผลสาเหตุการตายที่แน่ชัดออกมาก่อนอีกครั้งได้

ซึ่งพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว ซึ่งทางด้านนางสาวสถิต  กัญญาประสิทธิ์ อายุ 34 ปี มีศักดิ์เป็นอาสาวผู้ต้องหาและนายภัทราวุฒิ  แตงหอม อายุ 45 ปี มีศักดิ์เป็นอาเขยของผู้ต้องหาอีกคน ยังกล่าวระบุขอความเป็นธรรมให้ผู้ต้องหารายนี้ในครั้งนี้ด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่ต้องการให้หลานผู้ต้องหาไปหาหมอ พยายามขอเจ้าหน้าที่แล้วหลายครั้งนี้แต่อ้างว่านายยังไม่สั่ง ก่อนที่จะมาเยี่ยมหลานอีกครั้งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 07.30 น.วันที่ 8 ต.ค.61 ที่ผ่านมา ก็มาพบจนท.แจ้งว่า หลานผู้ต้องหาไม่สบายต้องรีบนำตัวส่งรพ.ภักดีชุมพล เป็นการด่วนตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว พอตามไปก็ไปพบว่าหลานเสียชีวิตแล้ว ซึ่งจากอาการบาดเจ็บก็ยังไม่เชื่อว่าหลานจะถึงขั้นเสียชีวิตครั้งนี้ได้ หากไม่มีการถูกทำร้ายร่างกายหนักเพิ่มอีก

แต่ที่ผ่านมาก็ยอมรับว่าผู้ต้องหาหลานชาย เป็นคนมีอารมณ์รุนแรง หลังมีการไปเสพยาบ้ามาแต่ละครั้งก็จะมีเรื่องทะเลาะไล่ตีคนในหมู่บ้านและก่อเหตุมาบ่อยครั้งตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ก็มักจะก่อเหตุไล่ตีไล่ต่อยคนบ่อยครั้งเวลาเสพยาตลอด

รวมทั้งทางพล.ต.ต.สมพจน์  ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้รับรายงานจากจนท.ตำรวจในพื้นที่สภ.ภักดีชุมพล ยังมีการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาคลั่งยาบ้ารายนี้ หลังผู้ต้องหารายนี้เคยพบมีประวัติตกเป็นเหยื่อทาสยาบ้ามานานกว่า 5 ปี ในตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทั้งเคยก่อนเหตุมีประวัติโชกโชนมักมีเรื่องทะเลาะวิวาทไล่ตีไล่ต่อยชาวบ้านในพื้นที่ไปทั่ว ก่อนที่จะก่อเหตุพยายามข่มขืนสาวในหมู่บ้านจนต้องติดคุกกว่า 2 ปีที่ผ่านมา เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน จนมาถึงครั้งนี้เสพยาบ้า

จนเกิดอาการหลอนหนัก และที่จะลงมือก่อเหตุคลั่งไล่ตีคนไปทั่วครั้งนี้ ได้พบว่าผู้ต้องได้นำจม.เขียนด้วยลายมือตัวเองไปส่งไว้ในกล่องรับร้องทุกข์ที่หน้าบ้าน สมาชิก อบต.ประจำหมู่บ้านแหลมทอง “พบข้อความที่น่าตกใจมากว่า “จะฆ่ามันให้หมด(ภาษาอีสาน”เบิด)ประเทศ ก่อนที่จะก่อเหตุไล่ทำร้ายพ่อ และชาวบ้านไปทั่ว จนมีการแจ้งจนท.ตร.โดยมี ร.ต.ต.รายนี้มาช่วยระงับเหตุแต่เกิดพลาดถูกหนุ่มคลั่งรายนี้ใช้ไม้หน้าสามไล่ตีจนหมดสติได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้จนล่าสุดตร.นายนี้ได้ถูกนำส่งตัวไปผ่าตัดด่วนที่รพ.ตำรวจวันนี้แล้ว ก่อนที่ด้านผู้ต้องหารายนี้เองได้เสียชีวิตระหว่างการถูกควบคุมตัวในเวลาต่อมาไม่นานเมื่อช่วงเช้าวันนี้ 8 ต.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายอยู่แล้ว

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]