X

สุดซึ้ง!ลูกพลัดพรากแม่บังเกิดเกล้าออกบวชตามหามานานกว่า30ปีจนพบ

ชัยภูมิ –เนื่องในวันแม่แห่งชาติปีนี้ เผยชีวิตแม่ลูกคู่นี้สุดจะมีสิ่งใดมาขวางกั้นสะท้อนถึงความรักวันแม่! หลังตั้งแต่เล็กๆแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ จนต้องยอมปล่อยให้ผู้ใจบุญขอรับไปเลี้ยง  ก่อนที่ลูกรายนี้จะโตขึ้นทราบเรื่องว่าแม่ตนเองเป็นคนฐานะยากจนและยังต้องทดทุกข์ลำบากเร่ร่อนอยู่ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ จึงตัดสินใจออกบวชพึ่งพระธรรมเพื่อออกติดตามหาแม่แท้ๆตัวเอง ต้องใช้เวลาที่ผ่านมานานกว่า 30 ปี จนพบเนื่องในวันแม่แห่งชาติปีนี้ก่อนใช้ผ้าขาวแทนดอกมะลิมอบให้แม่วัย 83 ปี สุดกั้นน้ำตา ภิกษุหนุ่มพลัดพรากแม่บังเกิดเกล้ามานานกว่า 30 ปี ตามหาจนพบหลังแม่ล้มป่วยติดเตียง ขอแทนคุณแม่ดูแลทั้งกายใจจนสิ้นบุญ!

(  11 ส.ค.61) ขณะที่จ.ชัยภูมิ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ วันเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่จะถึงในวันที่ 12 สิงหาคม ในปีนี้ ต้องสุดซึ้งกับบรรยากาศความรักของลูกกับแม่คู่นี้ ที่อยู่ในหมู่บ้านราชดำเนิน อำเภอหนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับแม่รายดังกล่าว ซึ่งเป็นหญิงชราป่วยสติไม่สมประกอบ อายุ 83 ปี ซึ่งตลอดชีวิตที่ผ่านมา ต้องพลัดพรากจากลูกชายรายนี้มานานกว่า 40 ปี  และเป็นบุคคลตกสำรวจไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนมาตั้งแต่เกิดจนอายุได้ 83 ปี

เพราะที่ผ่านมาไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เพียงแต่อาศัยศาลาข้างถนนเป็นที่กินนอน ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เข้าพบกับนายสาคร  เถินมงคล นายอำเภอหนองบัวแดง พร้อมด้วย นายแพทย์พุทธา สมัดไชย ผอ.โรงพยาบาลหนองบัวแดง ได้เปิดเผยจากเรื่องราวของ ยายหลง นามโพธิ์ หรือชื่อเดิมคือ นางหลง ฤาชา อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้ด้อยโอกาสในสังคม

ซึ่งนายอำเภอหนองบัวแดง เปิดเผยว่า ยายหลงจะอายุครบรอบ 84 ปีในสิ้นปีนี้ ตั้งแต่เกิดยังไม่เคยมีชื่อในสำเนาทะเบียนบ้าน และไม่มีการรับรองว่า มีสัญชาติเป็นคนไทย ซึ่งสมัยก่อนยายหลง กับนายลี สามี ได้เร่ร่อนรับจ้างอยู่ที่ย่านตลาดหนองบัวแดง ก็ไปหาพักอาศัยตามหน้าบ้าน ร้านค้า สถานที่ราชการ ตามศาลาข้างทาง ทั่วไปในอำเภอหนองบัวแดง มาตลอด

โดยคนที่หนองบัวแดง ก็จะเคยเห็นยายหลง มาตลอด แต่ยายหลงไม่เคย มีบัตรประชาชน และที่พักอย่างถาวร จนทางตนเองได้ย้ายเข้ามาเป็น นายอำเภอหนองบัวแดง  จึงได้ทราบจากทางศูนย์ส่งเสริมฯ โรงพยาบาลหนองบัวแดง ว่ามีหญิงชราเร่ร่อน คนหนึ่งแก่มากแล้วและยังไม่ได้รับสิทธิ อะไรจากทางราชการเลย

เนื่องจากไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน เวลาเจ็บป่วยทางโรงพยาบาลก็ช่วยสงเคราะห์ช่วยรักษาให้ และปรึกษาทางอำเภอ ให้ช่วยดูแล ทางอำเภอก็ได้มีการประสานทางหน่วยงานหลายฝ่าย เพื่อตรวจสอบว่ายายหลง มีสัญชาติไทยหรือไม่ก็พบว่ายายหลงเป็นคนพื้นที่มีสัญชาติไทยตนเองจึงใช้อำนาจในอำเภอเพื่อเพิ่มชื่อเข้าไปในทะเบียนบ้าน และทางอำเภอจึงสามารถดำเนินการออกบัตรประชาชนให้ ยายหลง เป็นคนไทยและมีทะเบียนบ้านอย่างถูกต้อง ณ ปัจจุบันในหมู่บ้านราชดำเนิน อำเภอหนองบัวแดง

ซึ่งพบหลักฐานยืนยันชัดเจนมากขึ้น เมื่อมาพบกับเรื่องราวความรักของลูกกับแม่ หรือยายหลงครั้งนี้เพิ่มมากขึ้น ที่ได้มีการพลัดพรากจากลูกที่มีทั้งหมดรวม 3 คนนั้นเกิดขึ้นจาก ยายหลงเป็นคนสติป่วยสติไม่สมประกอบ อยู่กินกับสามี ในสมัยก่อนยายหลงกับสามีมีอาชีพรับจ้างใช้แรงงาน ตระเวน ไปทั่วอำเภอหนองบัวแดง ตามไร่อ้อย จนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและได้มีบุตรด้วยกัน 3 คน

แต่ด้วยที่คนพบเห็นครอบครัวยายหลงในสมัยก่อนแล้ว ต่างก็สงสาร และมีผู้ใจบุญมาติดต่อขอรับลูกทั้งหมดของยาย กระจายรับไปเลี้ยงคนละทิศละทางตั้งแต่แบเบาะทุกคน

โดย มีโจก อายุ 47 ปี พี่ชายคนโตได้ถูกนายจันทร์ หนูหล้า อายุ 72 ปี นำมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งต่อมาอยู่ ที่บ้านเลขที่  38 หมู่ 2 บ้านราชดำเนิน อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของยายหลงในปัจจุบันนี้ ส่วนพี่สาวคนที่ 2  ได้มีคณะช้าง มาจาก ตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้ว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ได้มาแสดงช้างและขอ ลูกสาวคนกลาง ของยายหลงไปเลี้ยง เมื่อ 45 ปี ที่แล้ว ซึ่งขณะนี้ยัง ไม่สามารถติดต่อได้และไม่ทราบ ว่าอยู่ที่ไหน

ส่วนพระบุญเลี้ยง กิตติภทฺโท อายุ 42 ปี ซึ่งถูก พ่อแม่บุญธรรมนำไปเลี้ยงที่อำเภอเทพสถิต จ.ชัยภูมิ ก่อนที่ จะขอออกบวชและจำวัดอยู่ที่วัดวะตะแบก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ มานานถึง 13 พรรษา โดยหลังจากแม่บุญธรรมและพ่อบุญธรรม ก่อนจะเสียชีวิต จึงได้บอกสั่งความสุดท้ายว่า ทางพระบุญเลี้ยง ไม่ใช่ลูกตนเอง และพระมีแม่แท้ๆอาศัยอยู่ที่อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ จึงได้ออกตามหา แม่บังเกิดเกล้าครั้งนี้มานานกว่า 30 ปี จนมาพบในครั้งนี้ได้

ทางด้าน พระบุญเลี้ยง  กิตฺติภทฺโท อายุ 42 ปี บุตรชายคนเล็กของยายหลง เล่าว่า ในสมัยนั้น ตนเองได้เติบโต อยู่ที่บ้านหนองบัวน้อย เขตพื้นที่อำเภอเทพสถิต ตอนเป็นเด็ก โยมแม่บุญธรรมเล่าให้ฟังว่า แม่บังเกิดเกล้า หรือยายหลง ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ เนื่องจากเหตุผลหลายอย่าง ทั้งความยากจน  และไม่มี  ที่พักพิงอาศัยไม่มีนมให้ลูกกินจึงต้อง เอาไปฝากให้ชาวบ้านที่เป็นแม่ลูกอ่อนเลี้ยงแทน แม่บุญธรรมจึงสงสารและขอตนเองมาเลี้ยง คู่กับลูกสาว ของแม่บุญธรรมเพื่อที่จะได้กินนมก็เติบโตมากับ ครอบครัว ของพ่อแม่บุญธรรม ต่อมาแม่บุญธรรมได้ส่งเสียให้เรียนหนังสือ จบชั้นป. 5  ที่โรงเรียนบ้านห้วยต้อน อำเภอเมืองชัยภูมิ  จากนั้นมา ก็ย้าย ถิ่นฐานและหาสถานที่ทำกินที่อำเภอเทพสถิต

โดยโยมแม่บุญธรรมก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรมากมาย เพียงแต่ปลูกอ้อยปลูกมัน ฐานะก็ไม่ค่อยมี แต่ว่าก็สามารถเลี้ยงตนเองมาจนเติบโตได้ แต่ในส่วนลึกของหัวใจยังคิดถึง ว่าแม่แท้ๆตัวเองว่าคือใครมาตลอด และยิ่งทราบว่าแม่แท้ๆของตนเองยังมีชีวิตอยู่และยังต้องทุกข์ยากลำบาก และคาดว่ายังอยู่ในพื้นที่อ.หนองบัวแดง ของจ.ชัยภูมิ หลังพ่อแม่บุญธรรมเสียชีวิตจึงตัดสินใจออกบวช

และเริ่มใช้ความพยายามออกติดตามหาแม่แท้ๆรายนี้ ซึ่งขณะนั้นพระเองเริ่มทราบว่าส่วนตัวของ โยมพ่อ ได้เสียชีวิตลงแล้ว และเหลือแต่โยมแม่เพียงคนเดียว ที่ยังมีการออก เร่ร่อนไปตามศาลาข้างทางตลาดสด และตามหน้าบ้าน ร้านค้าในอำเภอหนองบัวแดง ซึ่งพยายามออกติดตามข่าวอยู่ตลอด

“จนมีชาวบ้าน ในหนองบัวแดง ไปเล่า ให้ฟังว่า โยมแม่หลงอยากเจอลูกชายล้มป่วยมากแล้ว บอกอยากเจอลูกชาย เพราะป่วยมากแล้วตนเองก็เลย ได้ตามกลับพบ และมาขอดูแล แม่บังเกิดเกล้า ครั้งนี้ได้เพื่อมาเอาบุญเอากุศลและบารมี ในจุดนี้เพื่อมาตอบแทนบุญคุณของท่านถึงท่านจะไม่มีทรัพย์ภายนอกให้เรา แต่ท่านให้ทรัพย์ภายในกับเราก็คือเลือดเนื้อเชื้อไข ให้ลมหายใจ และต้องมาตอบแทนบุญคุณของท่านเท่าที่เราจะทำให้ได้ที่มากที่สุด”

ซึ่งปัจจุบัน หลังจากโยมแม่ ได้รับอุบัติเหตุ หกล้ม จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว จึงได้ตัดสินใจ บอกกับทาง ญาติครอบครัว พ่อแม่บุญธรรม ว่าจะขอมาดู แลแม่บังเกิดเกล้าเป็นครั้งสุดท้ายจนกว่าจะสิ้นบุญ โดย เป็นหน้าที่ ของลูก ที่จะต้อง ปฏิบัติ ต่อแม่บังเกิดเกล้า และก็น่าจะมีแต่ตนเองเท่านั้นที่จะดูแลได้เพราะว่าพี่ชายคนโต ก็ ป่วย สติไม่สมประกอบ คงดูแลโยมแม่ไม่ได้เต็มที่ก็เลยต้องมาดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ กับทั้งพี่น้องแท้ๆอีกสองคน

โดยช่วงนี้ต้องมาขอจำพรรษาอยู่วัดราชดำเนิน ซึ่งอยู่ใกล้กลับบ้านของโยมแม่  ซึ่งจะมาทำหน้าที่ประจำวันโดยจะนำข้าวปลาอาหาร จากการบิณฑบาตมาป้อนโยมแม่ และเช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิสให้โยมแม่อยู่ตลอดทั้งวัน  ซึ่งเวลาว่างก็จะได้นำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ศึกษามา เป็นธรรมทานให้โยมแม่รักษาศีล สวดมนต์เป็นประจำ เพื่อจะได้มีกำลังใจและมีแรงสู้กับชะตากรรมของตัวเอง  โดยการจับต้องผู้หญิงซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้านั้น พระพุทธเจ้าท่านอนุญาติให้สัมผัส พ่อ แม่ ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดได้ อีกทั้งการที่ดูแล บิดา มารดา พระพุทธเจ้าจัดว่าเป็นมงคลอันประเสริฐ เป็นหนึ่งในในมงคล 38 ประการอีกด้วยจึงไม่อาบัติแต่อย่างใด ที่คนทั่วไปอาจจะยังไม่ได้เข้าได้

ซึ่งในวันแม่ปีนี้ตนเองไม่มีอะไรขอมอบชุดผ้าขาว แทนดอกมะลิ โดยอยากที่จะให้โยมแม่ได้ถือศีล 8 เพราะเท่าที่ทราบที่ผ่านมาโยมแม่ไม่เคยได้ทำบุญหรือถือศีลสักครั้ง โดยอานิสงส์จากการถือศีล 8 จะได้ส่งให้โยมแม่ไปสู่ภพภูมิที่ดี หลังโยมแม่จะสิ้นลมลงอย่างสงบต่อไป ที่ทุกวันนี้แม่แทบจะมีแรงเดินเหินไปไหนได้อีกแล้ว

ในขณะที่หลังจากยายหลงได้รับสิทธิ์เป็นบุคคลสัญชาติไทยมีบัตรประจำตัวประชาชนในฐานะคนไทย จะได้รับสิทธิ์รับการรักษาตามสิทธิของคนไทย ในส่วนของสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการฝ่ายพัฒนากรของเทศบาลตำบลหนองบัวแดง ก็รับไปดำเนินการตามขั้นตอนพเอช่วยเหลือยายหลงตามระเบียบราชการได้อีกทางต่อไป

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]