ชัยภูมิ – หลังเกิดกระแสข่าวสร้างความสับสนไปทั่วในขณะนี้ ซึ่งล่าสุดประธานชุมชนบ้านเกิดจ่าคลั่ง ยืนยันติดต่อทางญาติได้แล้ว ซึ่งมีการนำศพจ่าคลั่งไปทำพิธีเผาแบบเงียบๆ ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ได้มีการนำศพมาเผาที่วัดบ้านเกิดแต่อย่างใด และวันนี้ที่วัดบ้านเกิดที่ จ.ชัยภูมิ เองต้องการทำบุญใหญ่ประจำหมู่บ้าน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทุกฝ่ายทั้ง 30 ศพ เพื่อขอการแสดงความเสียใจและให้กำลังใจกับทุกฝ่ายที่สูญเสียทั้งหมดด้วย และไม่อยากให้มีกลุ่มมิจฉาชีพใช้จังหวะที่เกิดความสับสนว่าศพผู้ก่อเหตุถูกเผาหรือยังไม่เผา เพื่อไปเปิดเพจ หรือโพสต์ในโลกโซเชียลอยู่ในขณะนี้ ว่าทางคณะกรรมการวัดบ้านเกิดขอรับบริจาคช่วยครอบครัวผู้ก่อเหตุนั้น ไม่เป็นความจริงเด็ดขาด ขออย่าไปหลงเชื่อพร้อมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพวกหากินต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้สิ้นซากต่อไป!!
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ที่จ.ชัยภูม ล่าสุดหลังมีกระแสความไม่ชัดเจนเกิดความสับสนไปทั่วในขณะนี้ว่าทางญาติจ่าคลั่งได้ติดต่อรับศพเพื่อนำมาทำพิธีเผาที่วัดหนองสังข์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของจ่าคลั่งที่ จ.ชัยภูมิ นั้น
ซึ่งวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าล่าสุดเองทางวัดบ้านเกิด นำโดยพระมหาบุญสม คุณะวะโร เจ้าอาวาสวัดหนองสังข์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายทนงศักดิ์ คณะเจริญ ประธานชุมชนบ้านหนองสังข์ นายปรีชา ศิลป์ดี กรรมการที่ปรึกษาวัดหนองสังข์ และศ.ดร.สานนท์ ด่านภักดี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่กว่า 100 คนและประชาชนที่ต้องการมาร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทุกฝ่ายทั้งหมดรวม 30 ศพที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ภายในวัดหนองสังข์ และขอแสดงความเสียใจกับทุกฝ่ายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งล่าสุดเองผู้สื่อข่าวก็ได้รับการยืนยันจากนายทนงศักดิ์ คณะเจริญ ประธานชุมชนบ้านหนองสังข์ ว่า เรื่องความสับสนว่ามีการนำศพของจ่าคลั่งไปเผาที่ไหนนั้น ล่าสุดเองได้ติดต่อกับญาติผู้ก่อเหตุได้แล้วว่า จะไม่นำศพมาเผาที่วัดบ้านเกิดจ.ชัยภูมิ แต่ได้นำศพไปทำพิธีเผาตามศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ใช่ในค่ายทหาร แต่นำไปทำพิธีเผาที่วัดแห่งหนึ่งที่จ.นคราชสีมา ที่ญาติๆของผู้ก่อเหตุรู้จัก ซึ่งไม่อยากให้เกิดความสับสนว่าจะนำไปเผาที่ไหนกันต่อไปอีกในครั้งนี้ด้วย
ส่วนทางด้านนายปรีชา ศิลป์ดี กรรมการที่ปรึกษาวัดหนองสังข์ที่เป็นบ้านเกิดของผุ้ก่อเหตุรายนี้ กล่าวว่า เรื่องการนำศพมาเผาที่จ.ชัยภูมิ ก็ขอยืนยันว่าทางวัดไม่ได้รับการติดต่อกับทางญาติว่าจะนำมาเผาที่นี่ และในวันนี้ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ทางชาวชุมชนหนองสังข์ และวัดหนองสังข์ ได้มีการจัดทำพิธีทำบุญตักบาตร บำเพ็ญกุศล อุทิศส่วนกุศลในกับผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมด ในเหตุการณ์ที่โคราช และทางชุมชนขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกครอบครัวด้วย และอยากให้เหตุการณ์ครั้งนี้จบลงด้วยดีทุกฝ่าย
รวมทั้งยังมีกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาในขณะนี้อีกคือ พวกกลุ่มมิจฉาชีพที่ยังมีพฤติกรรมแอบอ้าง ตั้งเพจออกหากินขอรับบริจาคไปต่างๆนาๆต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มีการนำชื่อตนเองนายปรีชาฯ คณะกรรมการวัดหนองสังข์ ไปขอรับบริจาคช่วยเหลือครอบครัวผู้ก่อเหตุรายนี้นั้น ขอแจ้งว่าไม่เป็นความจริงเด็ดขาดไม่มีการไปเปิดเพจ หรือโพสต์ขอรับบริจาคในโลกโซเชียลในขณะนี้แต่อย่างใด และขออย่าไปหลงเชื่อโดยเด็ดขาด ซึ่งทางตนเองคณะกรรมการวัดจะไปแจ้งความเพื่อให้ติดตามจับพวกมิจฉาชีพเหล่านี้ให้ดำเนินคดีโดยเด็ดขาดต่อไปด้วย
ขณะที่ทางชาวบ้านที่ได้มาร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญเสียทุกฝ่ายในครั้งนี้ที่วัดหนองสังข์ อยู่นั้น ด้านนางเกสร ยิ้มนิรัญ แม่ชีของวัดได้กล่าวในศาลาวัดฯว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ก็มีความสับสนในเรื่องข้อมูลว่ามีการนำศพจ.ส.อ.จักรพันธ์ มาเผาที่นี่ ซึ่งก็ได้มีเพื่อนของผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่จังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางมาที่วัดหนองสังข์ หลังจากทราบข่าวที่สับสนออกไปว่ามีการนำร่างของผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตมาที่วัดหนองสังข์บ้านเกิดที่จ.ชัยภูมิ
ซึ่งทางแม่ชีของวัดได้บอกเพื่อนผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตไปว่า ญาติไม่ได้นำศพมาที่วัดหนองสังข์บ้านเกิดนี้ แต่อย่างใด ก่อนเพื่อนจ่าคลั่งรายนี้จะเล่าให้ฟังว่าได้นำเสื้อกันหนาวที่จ่าได้ไปเข้าฝันว่าหนาวมาก ที่อยู่ในรถเก๋งสีดำ ป้ายทะเบียน 873 ให้ไปตามเอาเสื้อแจ็คเก็ตที่รถคันดังกล่าวมาให้ด้วย ก่อนที่เพื่อนของผู้ก่อเหตุรายนี้จะเดินทางกลับไปที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อที่จะนำเสื้อดังกล่าวไปมอบให้ทางญาติและผู้เป็นแม่ผู้ก่อเหตุที่ขณะนี้สภาพจิตใจยังบอบช้ำหนักยังรับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และหลายฝ่ายหวั่นว่าจะคิดสั้นได้ และทางฝ่ายทหารต้องช่วยรับตัวไปอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดในค่ายทหาร กองทัพภาคที่ 2 ต่อไป
