X

อลหม่านทั้งเมืองตามรวบหนุ่มโคราชโพสต์ขู่เลียนแบบจ่าคลั่ง ล้างแค้นคนชัยภูมิในห้างดัง! (คลิป)

ชัยภูมิ – ขณะที่ด้านบ้านเกิดจ่าทหารคลั่งไล่ยิงกลางเมืองโคราชดับกว่า 30 ศพ ทางญาติพากันผวาถูกคนแค้นปิดบ้านเงียบไม่กล้าออกมาพบใคร หลังหนุ่มโคราชอ้างเมาหนักเลยออกมาระบายความในใจโพสต์เฟชบุ๊คจนสร้างความอลหม่านไปทั้งเมืองชัยภูมิ ถูกตำรวจตามรวบตัวได้แล้ว รับสารภาพที่มีการระบุข้อความสร้างความแตกตื่นอลหม่านไปทั่วเมืองชัยภูมิขู่เลียนแบบก่อเหตุที่เทอร์มินอล 21 โคราช จะมาก่อเหตุที่ห้างโรบินสัน จ.ชัยภูมิ เพื่อล้างแค้นที่จ่าทหารที่เป็นคนชัยภูมิไปไล่ฆ่าคนที่โคราชตายจำนวนมากนับ 30 ศพ รับสารภาพทำไปเพราะความเมาเท่านั้น และอยากฝากขอโทษชาวชัยภูมิที่สร้างความแตกตื่นไปทั่วทุกคนด้วย!

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 10 ก.พ.63 ที่จ.ชัยภูมิ หลังจากกรณีมีผู้ใช้เฟชบุ๊กชื่อว่า เฮียอาร์ม มอเตอร์ ได้โพสเฟชบุ๊คระบุ ว.2 ว.8 ว.24 ว.60 ว.61 ว.100 510 ว.100 ว.60 วิสามัญ ต่อไปโรบินสันชัยภูมิ และยังมีการโพสต์มีอาวุธปืน พร้อมข่มขู่ห้างโรบินสัน เทอนิมอล 21 โคราช มาละเดียวผม โรบินสินชัยภูมิ อย่าดูถูกความรู้สึกที่ทีมีให้ หมาจนตรอก.มันไม่รู้คุณใคหรอก

ซึ่งการโพสต์ข้อความดังกล่าวสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนไปทั่วเมืองชัยภูมิ ว่าหนุ่มรายนี้จะเลียนแบบการก่อเหตุที่เทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อมาไล่ยิงฆ่าคนในห้างโรบินสันสาขาชัยภูมิ

ซึ่งล่าสุดทางด้านพล.ต.ต.สมพจน์  ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจชัยภูมิ ได้เร่งมอบหมายให้พ.ต.อ.ไพโรจน์  ขุนหมื่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ เป็นหัวหน้าชุดเร่งควบคุมคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมด้วยพ.ต.อ.วัฒนชัย  จันทาทุม ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ,พ.ต.ท.นพดล  ทุนทวีศิลศักดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ และพ.ต.ท.ประสิทธ์  อุตรส สว.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ นำชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ออกติดตามตัวหนุ่มผู้โพสต์ข้อความในเฟชบุ๊ก สร้างความแตกตื่นไปทั่วเมืองชัยภูมิครั้งนี้เป็นการด่วน จนสามารถสืบทราบว่าผู้ก่อหตุรายนี้คือ นายพีรพัฒน์  ชูแสง อายุ 27 ปี (อาร์ม) อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 6 ต.กะขอน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งมีอาชีพมาทำงานเป็นช่างอยู่ร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองชัยภูมิ

ก่อนที่ผู้ต้องหารายนี้ได้ทำทีว่าตัวเองได้ทำผิดไปแล้ว ได้ชิงเดินทางมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่ชุดสืบสวนกำลังเดินทางไปจับกุมตัวที่บ้านพักแห่งหนึ่งในตัวเมืองชัยภูมิ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปค้นที่ห้องพักในร้านจำหน่ายรถจักรยานต์ เพื่อจะค้นหาปืนที่โพสต์ในเฟซบุ๊กดังกล่าว แต่ไม่พบ โดยนายพีรพัฒน์ ชูแสง วัย 27 ปี ผู้ต้องหารายนี้ยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนโคราช เมื่อวานนี้ช่วงประมาณ 3 ทุ่ม ได้นั่งดื่มสุราจนเมา ก่อนที่จะโพสต์ข้อความขู่จะล้างแค้นคนชัยภูมิที่ไปไล่ฆ่าคนโคราช ซึ่งจะไปก่อเหตุเหมือนกันที่ห้างโรบินสันชัยภูมิ จนมีคนชาวชัยภูมิ พากันแตกตื่นไปทั่ว ซึ่งเกิดจากความเมาพาไปในความรู้สึกเท่านั้น ในครั้งนี้อยากจะมามอบตัวและขอโทษชาวชัยภูมิที่ทำให้เกิดความแตกตื่นไปทั่วด้วย

ซึ่งตนเองไม่เคยมีปืนอาวุธร้ายแรงอะไร รูปภาพปืนที่โพสต์ก็ได้มาอินเทอร์เน็ต โพสต์ไปเพราะความเมาพาไปเท่านั้น ไม่ได้จะหวังไปก่อเหตุรุนแรงอะไร ก่อนที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่

ก่อนที่ทางด้านนายอัคราพนธ์  กิตติภัทร์เจริญ ผู้จัดการทั่วไป ซึ่งเป็นตัวแทนห้างโรบินสันสาขาชัยภูมิเดินทางมาพบ ผู้ต้องหารายนี้ได้กล่าวขอโทษต่อการโพสต์ข้อความรุนแรงที่เกิดขึ้นจนทำให้ห้างโรบินสันชัยภูมิได้รับความเสียหาย ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ชาวชัยภูมิแตกตื่นไปทั่วเมือง จนไม่มีใครกล้าเดินทางไปเที่ยวจับจ่ายที่ห้างเลยแม้แต่คนเดียว สร้างความเงียบเหงาไปทั้งห้างมาตั้งแต่ช่วงเช้าจนใกล้เที่ยงวันนี้

ซึ่งทางด้านผู้จัดการโรบินสันสาขาชัยภูมิกล่าวว่า เหตุการณ์ที่หนุ่มโคราชรายนี้โพสต์ข้อความดังกล่าวออกมาตั้งแต่ช่วงประมาณ 3 ทุ่มเมื่อวานนี้ ทำให้ทางห้างเกิดผลกระทบมาก จนมีคนส่งข้อความติดต่อมาถามในเพจของห้างมาตลอดทั้งคืน ทำให้คนแตกตื่นสร้างความอลหม่านให้กับชาวชัยภูมิไปทั่วเมือง

ซึ่งหลังมีการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้แล้ว ก็อยากจะขอมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจชัยภูมิ ที่ทำงานจับกุมตัวผุ้ต้องหาได้รวดเร็วได้ กอ่นที่ห้างจะได้รับผลกระทบคนไม่มาเที่ยวจับจ่ายจนได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้ด้วย ซึ่งจากนี้ไปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าไม่มีใครมาทำก่อเหตุรุนแรงอะไรได้แล้ว ขอให้มั่นใจการทำงานของจนท.และทางห้างโรบินสันก็พร้อมบริการลูกค้าได้เป็นอย่างดีต่อไปในครั้งนี้ด้วย

ส่วนด้านพ.ต.อ.ไพโรจน์  ขุนหมื่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ในกรณีที่เกิดขึ้นถือว่าสร้างความแตกตื่นต่อความมั่นคงของชาติและสร้างความเสียหายให้กับชาวจังหวัดชัยภูมิ อย่างร้ายแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ต้องหารายนี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในหลายข้อหาหนัก ทั้งกระทำผิดข้อหา พรบ.คอมพิวเตอร์ ข้อหาข่มขู่ให้คนอื่นตกใจกลัวสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงของชาติ  ข้อหาแต่งเครื่องแบบราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งในข้อหาเพิ่มเติมที่มีการแจ้งความเท็จจริงต่อ จนท.ด้วยว่า ตอนแรกผู้ต้องหารายนี้มาแจ้งความว่าตนเองไม่ได้เป็นคนโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คดังกล่าว ซึ่งภายหลัง จนท.สืบสวนสอบสวน มีหลักฐานจึงกลับคำมายอมรับว่าตนเองโพสต์ข้อความดังกล่าวเอง ก่อนที่จะนำตัวส่งฝากขัง รอรวบรวมพยานหลักฐานส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อยากฝากเตือนผุ้ที่คิดจะโพสต์ข้อความในลักษณะนี้ควรคิดให้ดี เพราะเมื่อพลาดไปแล้วจะเอาอะไรคืนมาได้ยาก ต้องถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนกฏหมายทันทีด้วย ไม่อยากให้ใครมาเลียนแบบจนเกิดการสร้างความแตกตื่นวุ่นวายสร้างความอลหม่านต่อความมั่นคงของชาติมากไปกว่านี้อีกด้วย

ขณะที่อีกด้านบรรยากาศที่บ้านเกิดที่ จ.ชัยภูมิของ จ.ส.อ.คลั่งไล่ยิงโหดกลางเมืองนครราชสีมาจนมีผู้เสียชีวิตล่าสุดรวมกว่า 30 ศพ ทางมารดา และญาติๆ จ่าทหารรายนี้ยังไม่มีการเดินทางกลับเข้ามาบ้าน ปล่อยคนบ้านนี้ไว้เพียงคนเดียว ไม่ยอมออกมาพบให้ข้อมูลกับใคร โดยที่นายทนงศักดิ์  คณะเจริญ ประธานชุมชนหนองสังข์ ชุมชนบ้านเกิดของจ.ส.อ.คลั่งรายนี้ ได้พยายามที่จะเข้าติดต่อกับญาติคนเฝ้าอยู่ที่บ้านเพื่อสอบถามว่าจะมีการเตรียมการนำศพของ จ.ส.อ.รายนี้กลับมาทำพิธีที่บ้านเกิดช่วงใดได้ แต่ก็ไม่มีใครออกมาให้ข้อมูลยังปิดบ้านเงียบไม่มีใครกล้าออกมาพบปะกับชาวบ้านในชุมชนเลย

ซึ่งประธานชุมชนรายนี้ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่อยากให้สังคมเกิดความเคียดแค้นตามมาจนบานปลายไปมากกว่านี้อีกเลย ถึงขั้นที่ไม่อยากให้นำศพมาเผาที่วัดในชุมชน หรือจะคิดมาติดตามก่อเหตุล้างแค้นกันไปมา อย่างกรณีที่มีการจับกุมหนุ่มโคราชที่วันนี้ขึ้นด้วยอีกเลย เหตุการณ์นี้ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วคงจะไปย้อนอะไรกลับคืนมาได้ เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำอย่างไรจะไม่ให้เกิดปัญหาตามมาอีก ให้สังคมมีบทเรียนและการให้อภัยกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในขณะนี้ เพราะกรณีที่เกิดขึ้นก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องที่สร้างความช็อกให้กับคนทั้งประเทศและทั่วโลก

ซึ่ง จ.ส.อ.รายนี้ คนในชุมชนทุกคนก็ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะทำลงไปได้ เพราะที่ผ่านมาที่อยู่ที่นี่ก็ไม่เคยทำอันตรายสร้างความเสียหายร้ายแรงอะไรเลย การเรียนก็ดี นิสัยก็ดี เพียงแต่เป็นคนชอบเก็บตัวเงียบในบ้านเท่านั้น ทางญาติและแม่ของเขาก็เข้าวัดทำบุญมีการออกมาช่วยเหลือสังคมเอื้อเฟื้อคนในชุมชนด้วยดีมาตลอด ก็ถือว่าเป็นส่วนที่ดีของสังคมที่นี่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วไม่มีใครคาดคิด และอยากฝากไปถึงสังคมคนไทยด้วยกันทุกคน เมื่อมีปัญหาเกิดไปแล้วก็ต้องอยู่กับมันด้วยดีต่อไปให้ได้ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]