ชัยภูมิ – ทั้งหมดได้แล้วมีมากกว่านับสิบคน ที่ส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี หลังชาวเน็ตพากันแชร์ว่อนสุดเถื่อนมีกลุ่มวัยรุ่นทั้งโจ๋เล็กโจ๋ใหญ่นับหลายสิบคนไล่ตะลุมบอนใช้โต๊ะเก้าอี้ของวัดไล่ตีกันกลางงานวัดดัง จนชาวบ้านนับร้อยที่มาร่วมงานวัดต้องพากันวิ่งหนีไม่ให้ถูกลูกหลงแตกหนีกระเจิง ต้นเหตุหนีไม่พ้นเมาเขม่นกันระหว่างกลุ่มโจ๋ขาใหญ่ประจำใน 2 หมู่บ้าน ใกล้กัน!
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 ก.พ.63 ที่จ.ชัยภูมิ ความคืบหน้าหลังจากเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกนับสิบคนสุดเถื่อนไล่ตะลุมบอนทำร้ายร่างกายกันในงานปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลอง ที่วัดเพชรดอนยาง ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ที่มีคนนำภาพคลิปขณะเกิดเหตุแชร์ว่อนไปทั่วมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.63 ที่ผ่านมา
ล่าสุดด้าน พ.ต.อ.ยรรยง จันทร์เขียว ผกก.สภ.บำเหน็จณรงค์ ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามหากลุ่มวัยรุ่น ที่มีทั้งโจ๋รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ มีอายุตั้งแต่ต่ำกว่า 18 ปี ไปจนถึงกว่า 30 ปี ทั้ง 2 ฝ่ายที่ก่อเหตุไล่ตะลุมบอนกัน และใช้เก้าอี้ของวัดไล่ทุบตีกันได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก รวมทั้งบางคนใช้ขวดสุรา และมีอาวุธมีด และปืน นำมาใช้ก่อเหตุไล่ทำร้ายกันภายในวัดครั้งนี้ด้วย
ซึ่งล่าสุดวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บำเหน็จณรงค์ สามารถติดตามทราบว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นไปบ้างทั้ง 2 ฝ่ายที่มาร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นจากหมู่บ้านหนองผักแว่น ตำบลบ้านเพชร อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุก่อน ไล่ทำร้ายกับกลุ่มรุ่นอีกฝ่ายที่อยู่หมู่บ้านใกล้กัน
และมอบมหายให้ทางด้าน พ.ต.ท.จิรภัทร เนื่องเหมรัตน์ พนง.สวสอบสวน สภ.บำเหน็จณรงค์ ได้ให้ชุดสืบสวนออกติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีครั้งนี้ทั้งหมด ที่เบื้องต้นทราบว่าเป็นวัยรุ่นบ้านหนองผักแว่น และบ้านหนองชากแง้ว ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้กันที่จัดงานของวัดครั้งนี้เกิดพากันยกพวกมาเที่ยวงานวัดและเมาเกิดเขม่นกันขึ้นภายในงาน ซึ่งมีผุ้ต้องหามากว่า 20 คน ที่ส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ในข้อหากระทำการทะเลาะวิวาทมีปากเสียงและปาโต๊ะเก้าอี้ของวัดใส่กันทำให้ผู้ที่มาร่วมงานจำนวนมากนับร้อยคนต้องพากันวิ่งหนีกันแตกกระเจิงกลางงานวัดครั้งนี้ รวมทั้งเด็กเยาวชนที่มีการนำอาวุธมีด และปืนมาใช้ก่อเหตุไล่ทะเลาะวิวาทกันครั้งนี้ ซึ่งครั้งนี้โชคยังดีที่ไม่มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บรุนแรงอะไรมากในครั้งนี้ เพื่อควบคุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุร่วมกันทั้งหมดนับสิบคนไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
