กมลชนก เด็กรุ่นใหม่ ผละงาน DSI ลงสนามเลือกตั้งแพร่ สวนเสื้อ “รวมพลังประชาชาติไทย”
ใช้ความขยันดับความใหม่ ลงพื้นที่แบบปูพรมเขต 2 แพร่ เดินกับทีมงานเคาะประตูทุกหลังแนะนำตัวแนะนำแนวทางปฏิรูปการเมืองพัฒนาการเมืองไทยสู่สากล วางฐานรากบริหารประเทศสร้างสังคมชนบทด้วยพลังการมีส่วนร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ ถึงบรรยากาศการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ในจังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มคึกคักผู้สมัคร ส.ส.เขต ทั้ง 2 เขตเลือกตั้งต่างออกหาเสียงไปตามชุมชนต่างๆ อย่างคึกคัก พรรคไทยรักษาชาติที่มีปัญหาการเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีก็ออกหาเสียงแล้วในขณะนี้ โดยผู้สมัครลงพื้นที่ด้วยตัวเอง หลายพรรคมีป้ายโปสเตอร์ติดบ้างปะปลาย ไม่มากเหมืองการเลือกตั้งในอดีต ไม่มีโปสเตอร์ขนาดใหญ่ติดตามสี่แยกสามแยกหรือที่ชุมชนของเมืองต่างๆ อาจเป็นเพราะกฏกติกาของ กกต.ที่วางไว้ข้อนข้างเข้มงวด ผู้สมัครที่น่าจับตามองรายหนึ่งคือ นางสาวกมลชนก ชุ่มเชย ผู้สมัคร เขต 2 หมายเลข 13 พรรคพลังประชาชาติไทย เป็นหนักการเมืองหน้าใหม่ ไฟแรงลงพื้นที่ต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ เดินทางไปพบประประชาชนแบบเคาะประตูบ้านใน บ้านร่องกาศ และอีกหลายๆ หมู่บ้านใน อ.สูงเม่น ช่วงบ่ายเดินทางไปทางตอนใต้ของจังหวัดแพร่ พบประประชาชนในอำเภอวังชิ้น เดินทางด้วยความเหน็ดเหนื่อยแต่ยังคงสู้
ข่าวน่าสนใจ:
- PEA ก.3 ร่วมตำรวจเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ละเมิดการใช้ไฟฟ้า มูลค่ากว่า 3 ล้านบาทอึ้งพบอุปกรณ์เหมืองบิทคอยน์จำนวนมาก
- นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระนอง เยี่ยมเยียนให้กำลังใจแก่เยาวชนในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง
- ลำพูน ตำรวจจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย ทำแผนนาทีอุ้มฆ่าไทยใหญ่ เหลืออีก 2 ยังไล่ล่าตัว
- นครพนม รวบนักพนันไฮโลหนีกระเจิงแต่ไม่รอดโดนจับพร้อมของกลาง
นางสาวกมลชนก ชุ่มเชย กล่าวว่า ในอดีตไม่คิดว่าจะมาเกี่ยวข้องกับการเมือง ได้แต่มุ่งศึกษาเล่าเรียน จนจบปริญญาตรี และ ปริญญาโท ทางวิทยาศาสตร์ เข้าทำงานที่สำนักงาน DSI เป็นเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ทั้งข่าวสารที่เข้ามา บรรยากาศทางการเมืองในอดีต และความไม่เป็นธรรมในสังคม ทำให้กลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้ตัดสินใจลงเลือกตั้ง ต้องการแก้ปัญหาภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาลที่โปร่งใสเป็นธรรม และ ทันสมัย ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีสิทธิ์ มีเสียง เท่าเทียมกันในสังคม มีสวัสดิการมากกว่าที่เป็นอยู่ ลดปัญหาทุจริตในทุกๆ วงการ ปฏิรูปกฏหมายให้เกิดการมีส่วนร่วมทันสมัย สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้เกิดความพยายามลงพื้นที่เดินไปตามบ้าน ทุกๆ หลังในเขตเลือกตั้งเพื่อแสดงเจตนารมย์ให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อขอเข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้ไม่รู้สึกกลัวว่านักการเมืองหน้าเก่าๆ จะชนะ เพราะปัญหาประเทศไทยที่ผ่านมา การเมืองก็คือ ปัญหาใหญ่ การที่กล้าอาสาออกมาเพราะเชื่อว่า ประชาชนจะเลือกคนรุ่นใหม่เข้าไปปฏิรูปการเมืองพัฒนาการเมืองไทยให้เป็นประชาธิปไตยเช่นเดียวกับ นานา ประเทศ นางสาวกมลชนกกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: