X

‘นายกฯ’ ย้ำ ลดดอกเบี้ย ช่วยแบ่งเบาภาระ คาดงบฯ 67 ได้ใช้ 1 เม.ย.

อุดรธานี – นายกรัฐมนตรี เร่งดันโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต ให้เกิดภายใน พ.ค.67 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ย้ำ การปรับลดดอกเบี้ย ช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน ระหว่างรองบประมาณผ่าน  

วันนี้ 19 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความเห็นกรณี สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานตัวเลขอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไตรมาสสุดท้าย ของปี 2566 ตกไปอยู่ที่ 1.7% และทั้งปี ขยายตัว 1.9% ว่า เรื่องนี้พูดไปหลายรอบแล้ว ว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จีดีพีประเทศไทยโตเฉลี่ยกว่า 2.2% ต่ำมาโดยตลอด ต่างจากประเทศเพื่อนบ้านมาก ส่วนอันดับโลก ประเทศไทยก็ลงมาเรื่อย ๆ

ตอนนี้ รัฐบาลยังไม่สามารถใช้งบประมาณได้ เพราะยังไม่ผ่านสภาฯ เร็วที่สุดน่าจะเป็น 1 เมษายน 2567 แต่ทุกกระทรวงใช้นโยบายเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น นโยบายพักหนี้ นโยบายแก้ไขหนี้นอกและในระบบ นโยบายฟรีวีซ่า หลาย ๆ เรื่องพยายามใช้อยู่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น แต่วันนี้ เราต้องยอมรับว่า ยังไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้าไปในระบบเลย

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ทุกหน่วยงานได้ปรับจีดีพี ลดลงทุกเดือนที่ออกมา ซึ่งจริง ๆ แล้ว น่าจะมีการทำนายที่ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ใช่ปรับลดกันทุก ๆ เดือน ซึ่งปัจจัยเกิดจากหลายอย่าง เม็ดเงินใหม่ไม่มี

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่จีดีพีเพียงอย่างเดียว แต่ Capacity Utilization (การใช้กำลังการผลิต) ก็ต่ำ หมายความว่า โรงงานผลิตสินค้าออกมาต่ำมาก ใช้ประมาณกว่า 50% ถ้าเกิดมีโรงงาน 100 โรง แต่ใช้ประมาณ 60% กำไรจะอยู่ตรงไหน โรงงานไม่มียอดคำสั่งซื้อเข้ามา เพราะกำลังซื้อต่ำ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนสูง รายได้ไม่มี เงินในกระเป๋าไม่มี แต่รายจ่ายสูง

ซึ่งรัฐบาลได้ช่วยเหลือไปแล้ว เช่น ลดค่าน้ำมัน ลดค่าไฟฟ้า พักหนี้ อะไรที่ไม่มี อะไรที่ทำได้รัฐบาลทำตลอด แต่อย่างหนึ่งที่ขอฝาก คือ นโยบายดอกเบี้ยซึ่งต้องใช้งบประมาณ ดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 2.5% ถ้าลดเหลือ 2.25% ก็จะช่วยบรรเทาภาระของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนได้

ย้ำ การปรับลดดอกเบี้ย ช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน 
เมื่อถามว่า พูดเรื่องนี้มาตลอด แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากธนาคารแห่งประเทศไทย นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า ดอกเบี้ยนโยบายใครเป็นคนควบคุม ก็คือธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ตนเองพูดคุยกับเลขาธิการสภาพัฒน์ ก็บอกว่า เราได้ทำทุกวิถีทางแล้ว

และมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย เลขาฯ สภาพัฒน์ ระบุว่า ได้คุยกับผู้ว่าการ ธปท. ว่าถึงเวลาที่จะต้องลด จึงถามว่า ทำไมไม่พูดคุยต่อหน้าสาธารณชนบ้าง และพูดคุยในภาษาที่ชัดเจน

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ทั้งเลขาฯ สภาพัฒน์ ผู้ว่าฯ ธปท. และตนเอง ต่างก็จบเศรษฐศาสตร์มา เราไม่ได้มาเอาชนะกัน แต่ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะลดดอกเบี้ย เพื่อรองบประมาณที่จะนำออกมาใช้ และได้สอบถาม เลขาฯ สภาพัฒน์ฯ ว่าสามารถทำอะไรได้อีก หากมีอะไรที่ทำได้ก็ขอให้เสนอมา ตนเองไม่ได้จมปลักอยู่กับการลดดอกเบี้ยอย่างเดียว แต่การลดดอกเบี้ยเป็นการแบ่งเบาภาระของคนไทยทุกคน เห็นแล้วจากตัวเลขที่ออกมา อย่างนโยบายเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต ก็พยามที่จะออกมาให้เร็วที่สุด

ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า การเติมเงินเข้าไปในระบบจำนวน 500,000 ล้านบาท จะทำให้เกิดเงินเฟ้อนั้น นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ปัจจุบัน ตัวเลขเงินเฟ้อติดลบอยู่แล้ว หากจะบอกว่าติดลบ จากการที่รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการ ลดราคาน้ำมัน หรือพยุงราคาไฟฟ้า หากถอดดัชนีตรงนี้ออกไป เงินเฟ้อขึ้นมาไม่ถึง 1% ยังไม่ถึงกรอบต่ำสุด หลายเรื่องที่รัฐบาลทำ ต้องใช้เวลา รวมถึงโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต ด้วย

หากทุกคนเห็นด้วยและพิสูจน์ให้ได้ว่า ไม่มีการทุจริตและประพฤติมิชอบ ก็จะพยามทำให้เร็วที่สุด อยากจะให้เกิดขึ้นภายในเดือนพฤษภาคม และนโยบายอื่นก็พยายามดำเนินการอยู่ รัฐบาลพยายามดำเนินการทุกอย่างที่สามารถทำได้ ณ วันนี้ ยินดีรับฟังว่า อยากให้รัฐบาลทำอะไร แต่ต้องคำนึงว่างบประมาณสามารถใช้ได้หรือไม่ อย่างเร็วที่สุด 1 เมษายน พยาพยามเร่งอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มีการเสนอแนวคิดเรื่อง การเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต เข้ามามากมาย จะเดินหน้าโดยไม่ต้องพะวกพะวังได้หรือยัง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอมา ตนเองก็รับฟัง พยายามรับฟังและให้อยู่ในกรอบเวลาเร็วที่สุด ผู้ว่าฯ ธปท.เพิ่งเห็นข้อมูล จึงขอเวลาศึกษาก่อน ก็ยินดี และหากมีอะไรให้บอกมา ยินดีรับฟัง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"