รู้จัก ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ จากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สู่เก้าอี้… นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย ในวัย 60 ปี โดยใช้เวลาเพียง 4 เดือน
ประวัติ :
นายเศรษฐา ทวีสิน ชื่อเล่น ‘นิด’ เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2506 ปัจจุบันอายุ 60 ปี เป็นบุตรคนเดียวของ ร้อยเอกอำนวย ทวีสิน กับ ชดช้อย ทวีสิน (สกุลเดิม จูตระกูล) โดยบิดาเสียชีวิตตั้งแต่ นายเศรษฐา อายุเพียง 3 ปี
นายเศรษฐา เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี เป็นหนึ่งในตระกูลที่มีความเกี่ยวข้องกับสายเครือญาติ 5 ธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ได้แก่ ตระกูลยิบอินซอย จักกะพาก จูตระกูล ล่ำซำ และบูรณศิริ
จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการเงิน จาก Claremont Graduate School สหรัฐอเมริกา
เริ่มการทำงานในปี 2529 ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท P&G ประเทศไทย (จำกัด) และประสบความสำเร็จเรื่อยมา กระทั่งได้ดำรงตำแหน่ง ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
ชีวิตครอบครัว
ปี 2532 นายเศรษฐา สมรสกับ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญความงามด้านผิวพรรณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีบุตรธิดา 3 คน ได้แก่
ณณภัทร ทวีสิน (น้อบ) บุตร
วรัตม์ ทวีสิน (แน้บ) บุตร
ชนัญดา ทวีสิน (นุ้บ) ธิดา
จากนักธุรกิจอสังหาฯ สู่นักการเมือง และนายกรัฐมนตรี ภายใน 4 เดือน แม้เจอมรสุม
ต้นเดือนเมษายน 2566 นายเศรษฐา ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในเครือแสนสิริ พร้อมโอนหุ้นทั้งหมดของ บมจ.แสนสิริ (SIRI) จำนวนกว่า 661 ล้านหุ้น ให้แก่ นางสาวชนัญดา ทวีสิน ธิดา โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเตรียมพร้อมทำงานการเมือง ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
หลังจากวางมือในบทบาทนักธุรกิจแล้ว ก็เดินหน้าลุยปราศรัยหาเสียงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และได้รับความไว้วางใจให้เป็น แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย
ผลการเลือกตั้ง เดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้คะแนน 141 เสียง เป็นอันดับ 2 และต่อมา ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และผ่านการโหวตเลือกให้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ด้วยนโยบายหลากหลาย โดยเฉพาะการแจก ‘เงินดิจิทัล 10,000 บาท’
อย่างไรก็ตาม ขณะกำลังจะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนั้น นายเศรษฐา ต้องเผชิญมรสุมครั้งใหญ่ของชีวิต เมื่อนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่เคยประกาศสนับสนุน นายเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย กลับออกมาแฉ ถึงพฤติการณ์การซื้อ-ขายที่ดินของ บมจ.แสนสิริ โดยโยงถึงการจัดตั้งนอมินีขึ้นมา ทั้ง รปภ. แม่บ้าน และบริษัทอุปโลก
กระทั่ง เกรงกันว่าจะส่งผลทำให้ ส.ว.ไม่โหวตเลือกนายเศรษฐา ในที่สุด พรรคเพื่อไทยต้องจำยอม กลืนเลือดและลืมวาทกรรม ‘มีเราไม่มีลุง’ โดยการเชื้อเชิญ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ได้
