กรุงเทพฯ – กรุงเทพมหานคร แถลงภาพรวมการทำงาน 30 วัน ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ’30 วัน กทม. สร้างความร่วมมือทุกมิติ โปร่งใสสำหรับทุกคน’ แบ่งผลงานเป็น 4 เรื่องหลัก 216+ นโยบาย 4 นโยบายเร่งด่วน ความโปร่งใส และการประสานงาน เผย ใน 1 วัน มีคนกรุงเทพฯ รายงานปัญหา ผ่านทราฟฟี่ฟองดูว์ เฉลี่ย 2,025 เรื่อง
วันที่ 7 กรกฎาคม 2565 นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร แถลงข่าว ’30 วัน กทม. สร้างความร่วมมือทุกมิติ โปร่งใสสำหรับทุกคน’ สรุปว่า
จากการทำงานกว่า 30 วัน ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ ได้ใช้วิธีการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กขณะลงพื้นที่ ทำให้ประชาชนได้เห็นว่า ผู้ว่าฯ ทำงานอย่างไรไปพร้อม ๆ กัน ปัญหาถูกแก้ไขในทันทีโดยไม่ต้องสั่งการ
สำหรับ ’30 วัน กทม. สร้างความร่วมมือทุกมิติ โปร่งใสสำหรับทุกคน’ แบ่งออกเป็น 4 เรื่องหลัก ๆ ดังนี้
1. 216+ นโยบาย
มีการนำนโยบายที่จำเป็นต้องใช้เงินผูกเข้ากับโครงการต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว จะอยู่ภายใต้ 7 ยุทธศาสตร์ของ กทม. เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญ เพราะหากนโยบายไม่สามารถผูกเข้ากับยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ได้ ก็จะไม่สามารถผลักดันได้เพราะไม่มีงบประมาณ ปัจจุบันได้นำนโยบายผูกเข้ากับงบประมาณปี 2565 และ 2566 เพื่อจัดทำร่างงบประมาณให้ประชาชนได้เห็นทางออนไลน์
ข่าวน่าสนใจ:
- แท็กซี่ EV เตรียมวิ่งขอนแก่น เปิดบริการกลาง พ.ค.นี้ ช ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของงานบริการด้านการขนส่งสาธารณะโดยใช้พลังงานไฟฟ้าใน จ.ขอนแก่น…
- ตรัง กู้เรือนำเที่ยวล่มเจ้าของเรือเผยทั้งน้ำตาขอโทษกับครอบครัวผู้สูญเสีย
- ตรัง สวยจึ้ง ขนมดอกไม้ทานได้ ละมุนด้วยสีพาสเทล ขายดีทุกเทศกาล
- กรมโรงงานอุตสาหกรรม สานต่อนโยบาย BCG ผนึก อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดสัมมนาสัญจรพื้นที่ EEC พร้อมดันอุตฯไทยขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
2. 4 นโยบายเร่งด่วน
1) การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เช่น การขุดลอกท่อระบายน้ำ พื้นที่ กทม. มีความยาวท่อระบายน้ำ 6,564 กม. ปีงบประมาณนี้มีเป้าหมายขุดลอกท่อ 3,390.43 กม. ปัจจุบันดำเนินการลอกท่อแล้ว 2,387 กม. (70.4%) เหลือเวลาประมาณ 2 เดือน คาดว่าจะสำเร็จตามเป้าหมาย
2) ความปลอดภัยบนท้องถนน เริ่มต้นด้วยทางม้าลาย กทม.มีทางม้าลาย 2,591 จุด มีปัญหา 1,620 จุด จะติดตั้งสัญญาณไฟแจ้งเตือน 80 จุด แบ่งเป็น ไฟทางข้าม 30 จุด และไฟกระพริบ 50 จุด ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.65
♦ โครงการเทศกิจ School Care เป็นโครงการเดิม ดูแลโรงเรียนอยู่ 346 แห่ง เป็นโรงเรียนของ กทม 261 แห่ง ที่เหลือเป็นโรงเรียนสังกัด สพฐ. และเอกชน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 ก.ค.65 ผู้ว่าฯ กทม.สั่งการให้เพิ่มเทศกิจ School Care ให้ครบทุกโรงเรียนในสังกัดกทม.437 โรงเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลความปลอดภัยเวลานักเรียนข้ามถนน
♦ เรื่องพื้นผิวการจราจร กทม.ประสานงานหลายภาคส่วน อาทิ บริเวณถนนพระราม 3 ถนนวิทยุ ฯลฯ ประสานการไฟฟ้านครหลวง เปลี่ยนแผ่นฝาบ่อพักสายไฟฟ้าใต้ดินให้ใหญ่ขึ้น เรียบขึ้น ขณะเดียวกันได้เร่งรัดการก่อสร้างและคืนพื้นผิวการจราจร เช่น แยกลำสาลี ท่าพระ ส่วนการพัฒนาทางเท้า ได้สำรวจไว้แล้ว และยังรับปัญหาเพิ่มเติมผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue เพื่อเร่งแก้ปัญหาได้อย่างถูกจุดและรวดเร็ว
♦ ด้านการจัดระเบียบสายไฟ สายสื่อสาร ล่าสุดได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดระเบียบสายตายหรือสายที่ไม่ได้ใช้งานออก ตั้งเป้าปีแรกที่ 800 กม.
♦ เรื่องหมวกกันน็อก กทม.ได้รับความร่วมมือจากสมาคมประกันวินาศภัย และบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สนับสนุนหมวกกันน็อกสำหรับนักเรียนในสังกัด กทม. ประมาณ 120,000 ใบ ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบให้เด็กอยากใส่
3) หาบเร่-แผงลอย และ Hawker Center เกี่ยวข้องหลายมิติ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องการจัดระเบียบเมือง เดิมมีหาบเร่-แผงลอย 55 จุด ที่ประกาศอย่างถูกกฎหมาย บชน.เห็นชอบเพิ่มอีก 31 จุด อยู่ระหว่างเสนอ บชน. ทบทวนให้ความเห็นชอบ 9 จุด มีจุดมุ่งหมายให้ชาวบ้าน ผู้ประกอบการรายเล็ก มีพื้นที่ทำมาหากิน และจัดระเบียบผู้ค้าที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ให้มีการลงทะเบียนอย่างถูกต้อง
กทม.ยังมีมาตรการลดราคาค่าเช่าแผงค้าของสำนักงานตลาด กทม. และปรับลดดอกเบี้ย สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร (โรงรับจำนำ กทม.) โดยลดค่าเช่าแผง 50% เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ ก.ค. – ก.ย. 65 ในตลาด กทม. 12 แห่ง และลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำ กทม. ตามราคากู้ยืม
4) สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งคณะกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ประชุมล่าสุด เมื่อ 2 ก.ค.65 สรุปผลดังนี้ 1.สัญญาการเดินรถส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วง บอร์ดมีมติให้เริ่มเก็บค่าโดยสารตั้งแต่เดือน ส.ค.65 เพื่อนำรายได้มาจ่ายค่าดอกเบี้ยและค่าจ้างเอกชนเดินรถ 2.การเปิดเผยสัญญาสัมปทาน ให้ประชาชนมีสิทธิ์รับทราบข้อมูล โดยเฉพาะค่าใช้จ่าย เพื่อจะได้สามารถพิจารณาค่าเดินรถที่เหมาะสมได้ต่อไป
3. ความโปร่งใส
ความโปร่งใส Open Bangkok คือ การเปิดเผยข้อมูล ตรวจสอบการทำงาน และความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ กทม.มีนโยบายเปิดเผยร่างงบประมาณให้ทุกคนได้เห็น โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ กทม. official.bangkok.go.th ซึ่งจะเห็นร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 จำนวน 79,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภากรุงเทพมหานคร
4. การประสานงาน
มีการร่วมมือกับภาครัฐอย่างน้อย 29 หน่วยงาน ภาคเอกชนอย่างน้อย 15 หน่วยงาน ภาคการศึกษา/วิจัยอย่างน้อย 8 หน่วยงาน ภาคประชาสังคมอย่างน้อย 5 หน่วยงาน และต่างประเทศอย่างน้อย 14 ประเทศ เพื่อให้ทุกโครงการมีความโปร่งใส
อย่างเรื่องต้นไม้ล้านต้น กทม.ตั้งเป้าว่าสิ้นปีจะได้ 1 ล้านต้น แต่ขณะนี้ผ่านไปเพียง 1 เดือน ได้ความร่วมมือ 1.3 ล้านต้นแล้ว ส่วนโครงการ ผู้ว่าฯ สัญจร’ ตั้งเป้าว่าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ต้องลง 1 เขต ขณะนี้ลงแล้ว 3 เขต ดังนั้น จะครบ 50 เขต ในเร็ว ๆ นี้
ทราฟฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue) เฉลี่ย 1 วัน มีคนกรุงเทพฯ รายงานปัญหา 2,025 เรื่อง (กทม.ได้รับรายงานปัญหาเพิ่มสูงขึ้นกว่า 54.5 เท่า) จนถึงปัจจุบัน 5 ปัญหาที่คนกรุงเทพฯ ร้องเรียนมากที่สุด คือ
อันดับที่ 1 เรื่องถนน 12,264 เรื่อง อาทิ ถนนไม่เรียบ ถนนพัง ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ
อันดับที่ 2 เรื่องทางเท้า 4,061 เรื่อง ฟุตบาทชำรุด ฟุตบาทพัง ฟุตบาทไม่เรียบ
อันดับที่ 3-5 เรื่องแสงสว่าง 3,231 เรื่อง ขยะ 2,559 เรื่อง และน้ำท่วม 2,389 เรื่อง ตามลำดับ
5 หน่วยงานที่รับเรื่องสูงสุด จากข้อมูลเมื่อ 4 ก.ค.65 ได้แก่ สำนักการโยธา กทม. ได้รับเรื่องร้องเรียนมากที่สุด 8,023 เรื่อง ดำเนินการแก้ไขแล้ว 1,212 เรื่อง, อันดับ 2 เขตจตุจักร 4,766 เรื่อง ดำเนินการแก้ไขแล้ว 1,957 เรื่อง หรือประมาณ 41%, อันดับ 3 สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. 3,858 เรื่อง, อันดับ 4 เขตประเวศ 2,100 เรื่อง และอันดับ 5 เขตคลองเตย 1,995 เรื่อง
ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาภาพรวม ณ วันที่ 4 ก.ค.65 แก้ไขเสร็จแล้ว 39% กำลังแก้ไข 34% ส่งต่อให้หน่วยงานอื่น 23% และสุดท้ายรอเจ้าหน้าที่รับเรื่องอีก 4%
ประชาชนสามารถส่งปัญหาผ่านระบบ Traffy Fondue ได้ โดยมีขั้นตอน 5 ขั้นตอน ดังนี้
1.สแกน QR Code หรือค้นหาเพื่อนในไลน์ @traffyfondue (TraffyFondue ฟองดูว์) หรือคลิก https://landing.traffy.in.th?key=teamchadchart
2. เพิ่มเพื่อนกับ Traffy Fondue
3.กดปุ่มส่งข้อความ
4.พิมพ์รายละเอียด กดถ่ายรูป และแชร์โลเคชัน
5.เมื่อแจ้งปัญหาแล้ว ระบบจะขึ้นสถานะ “รอรับเรื่อง” และสามารถติดตามผลหรือแจ้งเรื่องอื่น ๆ ต่อไป
“สรุปภาพรวม 30 วัน ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. มีดังนี้
1.เรื่องความโปร่งใส แก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน
2.การประสานงานเกือบ 100 หน่วยงาน เพื่ออนาคตของเมือง
3.การสื่อสารภายในองค์กร เพื่อลดปัญหาระบบท่อ (Pipe Line) เหมือนการทำงานของระบบ Traffy Fondue ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้า กทม.ไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ปัญหาจะถูกแก้ได้ ถ้าทุกคนให้ความร่วมมือกัน เพื่อสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคนต่อไป” โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: