วันที่ 28 มีนาคม 2565 นางจุฑารัตน์ มาดหมาย ประกาศตามหาลูกชายที่หายตัวไปจากค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี 18 วันแล้ว โดยระบุว่า “ประกาศคนหาย” ลูกแม่หายออกจากค่าย จ.ลพบุรี น.ส.จุฑารัตน์ มาดหมาย (แม่) อยู่ ม.4 ต.ย่านซื่อ จ.อ่างทอง ได้ร้องขอความช่วยเหลือจาก ”สายตรวจโซเชียล” ให้ประกาศตามหาลูกชาย ชื่อนายพนา หรือ นิวเบ็ญจวรณ์ อายุ 21 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.อ่างทอง ไปเป็นทหารเกณฑ์ อยู่ที่ค่ายทหารใน จ.ลพบุรี ซึ่งทางต้นสังกัดได้แจ้งแม่ว่า ลูกแม่หายออกจากค่ายเมื่อ 11 มีนาคม 2565 เวลา 04.09 น. ทางหน่วยได้ช่วยกันออกตามหา ยังไม่เจอคน แต่กลับมาเจอชุดทหารลูกชายครบชุด โทรศัพท์มือถือ สายชาร์จ และรองเท้าคอมแบทของลูกถอดกองอยู่ในป่าไผ่ หลังค่ายทหาร ซึ่งทางหน่วยได้นำสรรพกำลังออกปูพรมตามหาแต่ยังไม่เจอตัว
ซึ่งหลังจากนั้นทางแม่และญาติมีความกระวนกระวายใจ ได้เดินทางมาจากจังหวัดอ่างทอง ขอเข้าไปในค่าย เพื่อสอบถามการหายตัวได้คำตอบจากทหารว่าลูกหนีออกจากค่ายไป แต่แม่ไม่ปักใจเชื่อ ถ้าลูกออกจากค่ายจริง ลูกต้องโทรหาแม่ เพราะลูกจะโทรหาแม่ทุกวัน แต่พอแม่มาเห็นในภาพ ลูกจะทิ้งโทรศัพท์ทำไม ทั้ง 2 เครื่อง ลูกรักไอโฟนที่แม่ซื้อให้มากที่สุด และสายชาร์ทโทรศัพท์ที่พบในตู้ล็อกเกอร์ของลูกในกองร้อยในวันที่ 13 มี.ค. 2565 แต่เมื่อวันที่ 23 มี.ค. สายชาร์ทกับมากองรวมกันที่เสื้อผ้าของลูกที่ทางทหารอ้างว่าถอดทิ้งไว้ที่หลังค่าย ทำให้เคลือบแคลงสงสัยว่าลูกอาจจะเกิดอันตราย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 มี.ค. 2565 นางจุฑารัตน์ มาดหมาย แม่และญาติได้โทรประสานผู้สื่อข่าวว่าจะเดินทางมาเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ร.ต.อ.วีระพันธ์ ชื่นชม พนักงานสอบสวน สภ.เมือง ลพบุรี หลังจากที่ได้พูดคุยกับทางหน่วยทหารต้นสังกัด และขอให้ทางทหารเดินทางมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยถึงความคืบหน้าในการค้นหา ซึ่งทาง พันโทกชพงศ์ ภูมิศิริไพบูลย์ ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ผู้บังคับบัญชา พลทหารพนา เบ็ญจวรณ์ ทหารเกณฑ์วัย 21 ปีที่หายตัวออกจากค่ายทหาร ได้กล่าวยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ทหารเกณฑ์รายดังกล่าวมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ก่อนตัดสินใจหลบหนีออกจากค่ายทหาร ซึ่งก่อนหายตัวไปพลทหารพนา ได้เซ็นต์หนังสือยอมรับถึงการสอบสวน ภายในหน่วย ทราบต่อมาว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 พลทหารพนา ได้ลักลอบเสพยาเสพติดประเภทยาบ้า โดยรับยาบ้ามาจาก พลทหารรายหนึ่งในราคาเม็ดละ 50 บาท รวมเสพไปจำนวน 4 เม็ด ซึ่งหลังจากจับได้ ทางหน่วยได้ลงโทษพลทหารพนา ทางวินัย และสั่งออกกำลังกาย เพื่อตักเตือน จากนั้นพฤติกรรมของนายพนา เริ่มเปลี่ยนไปเก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใคร กระทั่ง เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565 ช่วงเวลา 01.00 นาฬิกา ถึงเวลา 04.00 นาฬิกา หลัง พลทหารพนา ได้ปฏิบัติภารกิจเข้าเวรยามเสร็จสิ้น พลทหารพนา ได้เดินมาที่ตู้เก็บของตัวเอง พร้อมขอซื้อบุหรี่ต่อจากเพื่อนพลทหารที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว 1 ซองจำนวน 100 บาท ก่อนเดินหลบหนีไปจากกองร้อย ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ชัดเจน
พันโทกชพงศ์ ภูมิศิริไพบูลย์ ผู้บังคับกองพัน หลังจากทราบข่าวการหลบหนีออกจากค่ายทหาร ได้สั่งให้กำลังพล และส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง เร่งค้นหา พลหทารพนา ในพื้นที่อย่างเต็มความสามารถ พร้อมอำนวยความสะดวกให้ญาติพลทหารพนา ในเรื่องประสานแจ้งความหาบุคคลสูญหายกับตำรวจสภ.เมืองลพบุรี ส่วนระเบียบของกองทัพบก ได้ดำเนินการตามขั้นตอน ในเรื่องจำหน่ายทหารขาดหนีราชการ แล้ว เกิน 15 วัน
จนเมื่อเวลา 14.00 น. ทางนางสาวจุฑารัตน์ มาดหมาย อายุ 47 ปี นางพรทิพย์ เบญจวรรณ์ อายุ 62 ปี ย่า แม่ของพลหทารพนา และญาติ ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พันตำรวจเอกรักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมือง ลพบุรีและพนักงานสอบสวน ถึงความคืบหน้าการหายตัวของพลทหาร พนา เบ็ญจวรรณ์ หรือ นิว อายุ 21 ปี โดยเริ่มการสอบสวนตั้งแต่เวลา 14.30 น .จนถึงเวลา 18.30 น. หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้น นางจุฑารัตน์ ผู้เป็นแม่กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือและร้องให้เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงลูกชายน่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ผู้เป็นแม่ตอบว่าไม่มั่นใจ 50/50 รู้สึกใจแป้ว คิดถึงลูกทุกวัน ตั้งแต่หายตัวไป แต่ยังดีใจที่ทางตำรวจจะช่วยอกติดตามค้นหาอีกทาง ยอมรับว่าลูกเคยเสพยาเสพติด มีครอบครัวแต่เลิกรากันไป มีหลานชายวัย 3 ขวบเศษ 1 คน หลังจากทราบข่าวลูกชายหายก็ได้มาช่วยกันออกตามหาที่หลังค่าย โดยน้อง นิว หายไปวันนี้ทั้งสิ้น 18 วันแล้ว ทางครอบครัวได้บนบานศาลกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ให้เจอลูก ซึ่งหากลูกได้ดูได้เห็นความทุกข์ของแม่ ย่า และครอบครัว ขอให้ออกมาจากที่ซุกซ่อน ยอมรับผิดกับทางราชการ ซึ่งทางหน่วยยินดีรับปากที่จะทำโทษตามระเบียบของทางราชการตามขั้นตอน ลูกหายไปอย่างนี้แม่ไม่สบายใจเลย
