เมียช็อกดึงตาข่ายคิดว่าติดปลาที่แท้ติดผัวตัวเองที่จมน้ำดับ

วันที่ 23 ส.ค. 63 ร.ต.อ.บัญชา ชอบธรรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งมีผู้จมน้ำเสียชีวิตที่บ่อร้าง หมู่ที่ 3 บ้านเขาพระยาเดินธง ต.พัฒนานิคม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม นคร 88 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดพัฒนานิคมรุดเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ่อร้างมืดสนิท ริมฝั่งพบถุงใส่ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เสื้อยืดสีฟ้า 1 ตัว ที่ริมบ่อน้ำพบศพนายถ่อม เพิกขุนทด อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่132 หมู่ที่ 12 ต.พัฒนานิคม อ.เมือง ลพบุรี สภาพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เพียงตัวเดียว ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นไม่พบบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตจากการจมน้ำประมาณ 4-5 ชั่วโมง

จากการสอบถามนางสุนี เพิกขุนทด อายุ 51 ปี และ น.ส.วราภรณ์ เพิกขุนทด อายุ 34 ปี บุตรสาว ที่ยังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเล่าทั้งน้ำตาว่านายถ่อม สามี ได้ออกมาวางตาข่ายเพื่อดักปลาเพื่อนำมาประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่ช่วงเย็นวาน จนดึกก็ยังไม่กลับได้เดินทางมาดูที่บ่อดังกล่าวพบถุงใส่ของเสื้อผ้าวางอยู่บนฝั่ง แต่ไม่พบตัวสามี จึงได้ตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่พบ คิดว่าน่าจะไปดักตาข่ายอีกฝั่งจึงได้ส่องไฟฉายตามแนวบ่อพบว่ามีตาข่ายดักปลาวางอยู่ริมบ่อส่วนหนึ่ง อีกส่วนอยู่ในน้ำ จึงได้ดึงตาข่ายพบว่าหนักๆ คิดว่าติดปลาจำนวนมาก เมื่อสาวมาใกล้ฝั่ง ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าที่แท้ตาข่ายพันขาพันตัวสามีตัวเองจมน้ำเสียชีวิตแล้ว จึงได้วิ่งกลับบ้านแจ้งเพื่อนบ้านให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าในขณะที่นายถ่อมลงตาข่ายดักปลา พลาดตาข่ายได้พันขาตัวเองจนแก้ไม่ออก ประกอบกับบ่อดังกล่าวมีความลึก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตาข่ายพันขาพันตัวจนดิ้นไม่หลุด ก่อนดิ้นทุรนทุรายจมน้ำเสียชีวิต ร้อยเวรได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้สอบสวน นางสุนี ภรรยาที่พบศพครั้งแรก มอบหมายให้ นคร 88 นำศพนายถ่อม ส่ง รพ.พัฒนานิคมเพื่อทำการชันสูตรในเบื้องต้น ก่อนนำส่งรพ.ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรศพหาสาเหตุการตายอีกครั้ง ก่อนที่จะนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป