X

เผาวอดโกดังโรงงานกระดาษ สมุทรสาคร ผ่าน 12 ชม. เพลิงยังไม่สงบ

สมุทรสาคร – เพลิงโหมกระหน่ำโรงงานกระดาษรายใหญ่ ย่านบางปลา ต.บ้านเกาะ กว่า 12 ชม. ยังดับไม่ได้ ผู้ว่าฯ ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 2 หมู่บ้าน

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 4 พ.ค. 2567 พ.ต.ต.สุรชัย ศรีพิมพ์ลาม สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ขึ้นภายในบริษัท ปัญจพลไฟเบอร์คอนเทนเนอร์ จำกัด (สาขาบางปลา) ตั้งอยู่เลขที่ 110/4 หมู่ 4 ถ.เศรษฐกิจ 1 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงงานผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก และบรรจุภัณฑ์กระดาษครบวงจร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจากในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คันเข้าระงับเหตุ

สำหรับโรงงานแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ขณะที่จุดเกิดเพลิงไหม้เป็นโกดังเก็บกระดาษรีไซเคิล ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ มีลักษณะเป็นอาคารโครงเหล็กสูงโปร่งชั้นเดียว หลังคาสูง มีกองกระดาษรีไซเคิลเก็บกองไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง แม้เจ้าหน้าที่จะได้พยายามช่วยกันฉีดน้ำดับไฟรอบทิศทาง แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่มีกองกระดาษอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งรถแบ็คโฮที่เข้าไปหน้างานในคันแรก ไม่สามารถที่จะสู้กับเปลวเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงได้ ส่วนรถแบ็คโฮ (คอยาว) ที่ได้มาจากทาง อบจ.สมุทรสาคร ก็พบกับปัญหาเรื่องติดโครงหลังคาโกดัง จึงยังไม่สามารถทำงานได้เช่นเดียวกัน

 

เบื้องต้นจึงได้มีการปรับแผนเป็นการขุดบ่อเพื่อดึงน้ำจากอีกแหล่งหนึ่ง ให้ไหลเข้าสู่พื้นที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ให้ได้มากที่สุด จะได้ส่งน้ำให้กับรถดับเพลิงที่ระดมมาช่วยกันฉีดทั้งจากในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน โดยเฉพาะกำลังเสริมและรถสนับสนุนจากทางมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่มาร่วมจำนวนมาก ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า หลังจากที่เพลิงได้โหมลุกไหม้จากกองกระดาษกองแรก ก็ค่อย ๆ ลามไปยังกองอื่น ๆ นอกจากนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน ซึ่งห่างไกลโรงงานออกไปไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตร ได้โพสต์ภาพลงในสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีฝุ่นจากเศษกระดาษที่ไฟไหม้ ปลิวตกใส่บ้านเรือนจำนวนมาก

ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่สนับสนุนจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี ที่ได้นำเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล 2 คัน เข้ามาช่วยปฏิบัติการในครั้งนี้ ก็ยังไม่สามารถดับไฟที่โหมลุกไหม้ภายในตัวโกดังให้สงบหรือเบาบางลงได้ เพียงแต่สามารถควบคุมไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังอาคารโกดังอื่นที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นที่เก็บเชื้อเพลิงถ่านหิน และอาคารเครื่องจักรกล และก่อนหน้านี้พบว่า จากเปลวเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงต่อเนื่องมานานหลายชั่วโมงแล้วนั้น ส่งผลทำให้โครงสร้างหลังคาบางส่วนทรุดตัวลงมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงจึงต้องปรับวิธีถอนกำลังที่จะเข้าไปฉีดน้ำภายในโกดัง ให้ออกมาระดมฉีดน้ำรอบนอกทุก ๆ ด้านของตัวโกดังเท่านั้น

ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ขณะนี้ต้องยอมรับว่าการดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพตัวโกดังที่ทำให้ไม่สามารถส่งรถแบ็คโฮเข้าไปทำงานร่วมได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีลมพัดแรงมาเป็นระยะ ดังนั้นจึงต้องระวังเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ เพราะหากทำให้เกิดการฟุ้งกระจายของความร้อนหรือสะเก็ดไฟที่อาจจะปลิวไปตกยังโกดังอื่นได้ ก็อาจจะเกิดการลุกไหม้เสียหายมากขึ้น

โดยแผนล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดแบ่งพื้นที่และเวลาการปฏิบัติงาน รถดับเพลิงร่วมกับรถแบ็คโฮของบริษัทฯ และ อบจ.สมุทรสาคร ร่วมฉีดน้ำดับเพลิงรอบด้านโกดังและตักคุ้ยกระดาษ (บางจุด) ขณะที่ในช่วงค่ำนี้จะได้กำลังจากทางเจ้าหน้าที่กองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 1 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เข้ามาเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะดับสนิทโดยใช้เวลาประมาณ 3 วันนับจากนี้ เนื่องจากเชื้อเพลิงเป็นกระดาษจำนวนมากกว่า 20,000 ตัน

ขณะเดียวกัน นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ได้ออกประกาศจังหวัดสมุทรสาคร ฉบับที่ 25/2567 เรื่อง เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอัคคีภัย ในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีใจความว่า ด้วยได้เกิดเหตุอัคคีภัยในเขตพื้นที่ บริษัท ปัญจพลไฟเบอร์คอนเทนเนอร์ จำกัด และพื้นที่ใกล้เคียงท้องที่ หมู่ที่ 1 และ หมู่ที่ 4 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2567 เวลา 09.24 น. ซึ่งภัยดังกล่าวเป็นสาธารณภัย/ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายของประชาชน ความเสียหายแก่ทรัพย์สินของรัฐ และสาธารณภัย/ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินดังกล่าวยังไม่สิ้นสุดลง

เพื่อประโยชน์ในการจัดการสาธารณภัย ให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564-2570 และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน อาศัยอำนาจตามความ ข้อ 20 วรรคสามของระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ประกอบกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร/ผู้อำนวยการจังหวัด จึงประกาศให้พื้นที่หมู่ที่ 1 และ หมู่ที่ 4 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564-2570 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร พ.ศ. 2564-2570 และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเร็วและดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 3 เดือนนับแต่วันที่เกิดภัย

ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. พบว่าแม้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะสามารถฉีดน้ำตีวงล้อมไม่ให้ไฟลุกลามไปยังโกดังอื่นได้ แต่เปลวเพลิงยังคงโหมรุนแรงเหมือนเดิม ซึ่งผลจากการที่ไฟลุกไหม้มาตลอดทั้งวันนั้น ก็ส่งผลทำให้โครงเหล็กของตัวโกดังทรุดตัวยุบลงมาทั้งหมดแล้ว โชคดีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่ก็ทำให้เป็นอุปสรรคในการฉีดน้ำดับเพลิง เนื่องจากโครงเหล็กของโกดังยุบลงมาทับกองกระดาษ ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงและรถแบ็คโฮเข้าทำงานไม่ได้ ต้องใช้วิธีการระดมฉีดน้ำเข้าไป พร้อมกับจัดชุดเฝ้าระวังพื้นที่ที่ยังไม่เกิดเหตุ ขณะที่ชุมชนรอบนอกโรงงานที่ห่างออกไปราว 1 กม. แม้จะมีดงปรือและลำคลองเล็ก ๆ กั้นไว้ แต่เปลวเพลิงที่ดูเหมือนจะรุนแรงมากขึ้นในช่วงค่ำ ก็ส่งผลทำให้หลายคนหวั่นวิตกกังวล ทั้งกลัวในเรื่องของเศษไฟที่ปลิวมาตามสายลม และฝุ่นควัน บางคนถึงกับมีการย้ายข้าวของเสื้อผ้าบางส่วน และเด็กเล็ก ๆ ออกมาอยู่กับญาติข้างนอกก่อน เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยในชีวิต

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กิตติกร นาคทอง

กิตติกร นาคทอง

กิตติกร นาคทอง จบการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นผู้สื่อข่าวเว็บไซต์สาครออนไลน์ จังหวัดสมุทรสาคร เน้นนำเสนอความเคลื่อนไหวในท้องถิ่น และการพัฒนาเมืองในจังหวัดสมุทรสาครเป็นหลัก