สมุทรสาคร – ผบช.ภ.7 แถลงจับกุมแก๊งวัยรุ่น “NA ดิวะ” แข่งรถยนต์บนถนนพุทธสาคร พื้นที่ สภ.กระทุ่มแบน พร้อมริบรถยนต์ของกลาง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 มี.ค. 2565 ที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7 ในฐานะ ผอ.ศปข.ภ.7, พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน, พ.ต.ท.อภิวิทย์ แจ่มแจ้ง รอง ผกก.ป.สภ.กระทุ่มแบน, พ.ต.ท.วุฒิชัย ทวีกาญจนวัฒน์ รอง ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน และ พ.ต.ท.ณัฏฐ์ ชูแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.กระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ร่วมแถลงผลการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถยนต์ประลองความเร็วบนถนนพุทธสาคร อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคลิปปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นการขับขี่รถในลักษณะคล้ายเป็นการแข่งขันรถยนต์ จากการตรวจสอบเบื้องตันพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.30 น. บริเวณถนนพุทธสาคร กม.5+900 หน้าร้านโชคชัยวัสดุก่อสร้าง ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จากการสืบสวน สอบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่กลุ่มรถยนต์ดังกล่าวใช้แข่งขัน และรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นได้มีการนัดหมายแข่งรถกันทางแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อกลุ่ม “NA ดิวะ” มีผู้ทำหน้าที่แอดมินจำนวน 2 คน มีการชักชวนบุคคลในกลุ่มให้มาประลองความเร็วและนัดหมายสถานที่ในการแข่งรถยนต์ในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว จึงได้ตรวจพิสูจน์ทราบพบยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้อง จากนั้นติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี จำนวน 11 ราย พร้อมยึดรถของกลาง และส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแขวงสมุทรสาคร
โดยผู้ต้องหาที่ 1 ทำหน้าที่เป็นแอดมินกลุ่ม นัดกำหนดสถานที่การประลองความเร็ว เป็นผู้บันทึกคลิปวีดิโอขณะรถยนต์ประลองความเร็วกันบริเวณเกาะกลางถนน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา, ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม ทำหน้าที่แอดมิน ขับขี่รถยนต์เข้าร่วมแข่งขันรถในทาง และเป็นผู้ให้สัญญาณกระบองไฟ พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า สีแดง ทะเบียน ฉม 5898 กรุงเทพฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา, ผู้ต้องหาที่ 3 ทำหน้าที่ใช้กระบองไฟ ให้สัญญาณปล่อยรถแข่งขัน พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีม่วง ทะเบียน กล 8542 อุบลราชธานี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “เป็นผู้จัดให้มีการแข่งรถในทางเดินรถโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, จอดรถกีดขวางจราจร, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และชุมนุมการทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมกัน ณ สถานที่ใด ๆ หรือการกระทำดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบตามประกาศของจังหวัดสมุทรสาคร”
ขณะที่ผู้ขับขี่รถยนต์เข้าร่วมแข่งขันรถในทาง ได้แก่ ผู้ต้องหาที่ 4 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีเทา ทะเบียน 2 ณฆ384 กรุงเทพฯ, ผู้ต้องหาที่ 5 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีแดง ทะเบียน 1 กอ 3578 กรุงเทพฯ, ผู้ต้องหาที่ 6 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน 1 ฒล 3099 กรุงเทพฯ, ผู้ต้องหาที่ 7 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีเทา ทะเบียน 9 กบ 8042 กรุงเทพฯ, ผู้ต้องหาที่ 8 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส สีเทา ทะเบียน ฎส 924 กรุงเทพฯ, ผู้ต้องหาที่ 9 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส สีเทา-ดำ ทะเบียน ศศ 4556 กรุงเทพฯ, ผู้ต้องหาที่ 10 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอเอ็มจี ซีแอลเอ 45 สีดำ ทะเบียนป้ายแดง 6 กด 8558 กรุงเทพฯ
โดยผู้ต้องหาที่ 4-10 ทั้ง 7 คน ถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันแข่งรถในทาง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจร, จอดรถกีดขวางจราจร, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และชุมนุมการทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมกัน ณ สถานที่ใด ๆ หรือการกระทำดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบตามประกาศของจังหวัดสมุทรสาคร” ซึ่งผู้ต้องหาที่ 4-7 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 8-10 ให้การปฏิเสธ ขณะที่ผู้ต้องหาที่ 11 ซึ่งขับขี่รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน สส 7919 กรุงเทพฯ อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2565 ศาลแขวงจังหวัดสมุทรสาคร มีคำพิพากษาลงโทษผู้ต้องหาที่ 1 กักขัง 1 เดือน 35 วัน พักใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ 6 เดือน, ผู้ต้องหาที่ 2-3 กักขัง 1 เดือน 15 วัน พักใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ 6 เดือน และ ริบรถยนต์ของกลาง, ผู้ต้องหาที่ 5-7 กักขัง 1 เดือน 15 วัน พักใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ 6 เดือน และ ริบรถยนต์ของกลาง ส่วนผู้ต้องหาที่ 8-10 อยู่ระหว่างดำเนินคดีในชั้นศาล
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวปิดท้ายว่า จากกรณีการแข่งรถในทางนี้ ตนก็จะได้มีการสั่งการในภาพรวมของตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด โดยจะสั่งให้ทุกจังหวัดในพื้นที่ความรับผิดชอบของภาค 7 ยกระดับการป้องกัน มีการสืบสวนก่อนเกิดเหตุ มีการเฝ้าระวังในแอดมินเพจต่าง ๆ และสิ่งสำคัญคือมีการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกให้กับประชาชนและพี่น้องทุกภาคส่วนทราบว่า หากพบเบาะแสการแข่งรถในทาง สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือสามารถส่งคลิปวิดีโอหลักฐานมาทางเพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีเงินรางวัล 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้
