เมืองคอนพบ”โรคมะเร็งสมอง-เส้นเลือดโป่งพอง”ในเด็ก อาการย่ำแย่ พ่อแม่ยากจน วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

นครศรีธรรมราช:”น้องเมฆ”วัย 8 ขวบ ป่วยเป็นโรคมะเร็งในสมองระยะ 2 แถมเส้นเลือดในสมองโป่งพอง โรคหายากในวัยเด็ก เสี่ยงต่อการเสียชีวิตตลอดเวลา พ่อแม่หมดทางหาเงินหลักแสนเพื่อรักษา วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังได้รับการติดต่อประสานขอความช่วยเหลือจากนายสามารถ รอดสม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสวนภูมิสถาปัตย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นครศรีธรรมราช ให้เข้าช่วยเหลือเด็กน้อยวัย 8 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง อาการกำลังย่ำแย่ เนื่องจากไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง สาเหตุจากฐานะทางครอบครัวยากจน หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 52 ม.1 ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช พบ 2 สามีภรรยาชื่อนายชัยฤทธิ์ โชติกะ อายุ 43 ปี และน.ส.พัชรี ติจันทร์ อายุ 37 ปี กำลังช่วยกันดูแลอาการป่วยของ ด.ช.เลิศพิพัฒน์ หรือ น้องเมฆ โชติกะ อายุ 8 ปี บุตรชาย ที่นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงภายในบ้านอย่างใกล้ชิด จากผลของการเป็นโรคมะเร็งเนื้องอกในสมอง ระยะที่ 2 และโรคเส้นเลือดในสมองโป่งพอง อย่างคนหมดสิ้นความหวัง

น.ส.พัชรีผู้เป็นมารดาได้เล่าถึงอาการป่วยของน้องเมฆให้ฟังว่า ช่วงที่น้องเมฆอายุประมาณ 4 เดือน น้องมีอาการปากเขียว ตัวเขียว และหมดสติ จึงรีบพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ในตอนนั้นแพทย์ได้วินิจฉัยว่าน้องเมฆ น่าจะป่วยเป็นโรคลมชัก จึงให้กินยารักษาอาการอยู่ประมาณ 2 ปี แต่อาการไม่ดีขึ้น กระทั้งแพทย์ได้ส่งตัวไปทำการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งพบว่าในสมองของน้องเมฆมีก้อนเนื้องอกขนาด 2-3 เซนติเมตร ซึ่งจะต้องทำการผ่าตัดออกโดยเร็ว จากนั้นแพทย์ได้ทำเรื่องส่งตัวน้องเมฆไปทำการผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่พร้อมและทันสมัยกว่า หลังการนำเอาชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ พบเชื้อมะเร็งซึ่งอยู่ในระยะที่ 2 แพทย์จึงได้ให้ยามารับประทานเพื่อบรรเทาอาการ กระทั้งล่าสุดน้องเมฆ มีอาการกำเริบเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งหนักและรุนแรงกว่าที่ผ่านๆมา ถึงขั้นไม่สามารถไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ เนื่องจากเกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคบ่อยครั้ง ทั้งอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ชักเกร็ง และอาเจียน จึงนำตัวน้องเมฆไปพบแพทย์อีกครั้ง โดยแพทย์ได้ทำการเอ็กซเรย์สมองอีกครั้ง โดยพบว่าเส้นเลือดในสมองของน้องเมฆโป่งพอง จำเป็นต้องทำการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้นานอาจเสี่ยงต่อการเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก ได้ ซึ่งอาจมีผลต่อชีวิตอย่างมาก ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคดังกล่าวนั้น มีค่าใช้จ่ายสูงนับแสนบาท ปัจจุบันน้องเมฆกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนวัดพรหมโลก อ.พรหมคีรี แต่เนื่องจากผลกระทบข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากโรคดังกล่าว น้องเมฆจำเป็นต้องหยุดพักการเรียนในทันที เนื่องจากแพทย์แจ้งว่า โรคเส้นเลือดสมองโป่งพอง อาจทำให้เส้นเลือดสมองแตกและเสียชีวิตได้ทุกเวลา

“วันนี้ทำได้เพียงอยู่กับลูกให้นานที่สุด อยู่ด้วยความรัก ไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บปวด ไม่อยากเห็นลูกต้องทนทุกข์ทรมาน หากเป็นไปได้อยากเป็นแทนลูก อยากให้ลูกมีอนาคตที่ยาวไกล ทั้งพ่อและแม่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะเฝ้าคอยดูแลลูกอยู่อย่างใกล้ชิด”นายชัยฤทธิ์ กล่าวว่า ทั้งตนและภรรยามีอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยตนเป็นลูกจ้างอยู่ที่ร้านรับซื้อยางพาราในตัวอำเภอ ส่วนภรรยาเป็นลูกจ้างอยู่ที่ร้านอาหารตามสั่งในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มีรายได้ไม่เกิน 300 บาท/วัน/คน ซึ่งรายได้ที่ได้มานั้นไม่เพียงพอต่อการรักษาอาการป่วยของลูกให้หายขาดได้ ตนยอมรับว่าตนไม่มีปัญญาที่จะหาเงินหลักแสนบาทมาได้ จึงทำได้เพียงหน้าที่พ่อและแม่ให้สมบูรณ์และดีที่สุดเท่าที่มีแรงทำได้ จำเป็นต้องรักษาตามสภาพอาการโดยใช้สิทธิบัตรทองในการรักษา และในวันที่ 7 พ.ย.62 ที่จะถึงนี้ จะถึงวันที่แพทย์นัดหมายเพื่อทำการรักษาอาการป่วยของลูกชาย ซึ่งในเบื้องต้นแพทย์ได้ทำการประเมินค่ารักษาโดยประมาณกว่า 1 แสนบาท ซึ่งเราทุกคนคงหมดสิ้นความหวังที่จะพาลูกชายไปทำการรักษา อย่างไรก็ตามหากดูจากภายนอกแล้ว น้องเมฆ มีสภาพร่างกายเหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่เมื่อได้พูดคุยสื่อสารกับน้องเมฆ กลับพบว่าน้องเมฆ มีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ค่อนข้างคิดช้า พูดสื่อสารโต้ตอบช้า ทั้งนี้เกิดจากผลข้างเคียงของอาการป่วยทั้ง 2 โรค สำหรับโรคเส้นเลือดสมองโป่งพองนั้น ถือว่าพบยากมากในเด็กวัยนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะพบในผู้ป่วยกลุ่มผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ โดยจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ตลอดเวลา แต่เนื่องด้วยฐานะทางครอบครัวมีความยากจนอย่างมากไม่สามารถนำตัวเด็กเข้าทำการรักษาและผ่าตัดได้ตามกำหนดระยะเวลาของแพทย์ได้ เนื่องจากไม่มีเงินที่จะนำไปจ่ายในค่ารักษาได้ จึงวอนขอความช่วยเหลือผู้ใจบุญมีเมตตายืนมือเข้าช่วยโดย สามารถโอนเงินสมทบทุนช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ ธ.กสิกรไทยสาขาย่อยตลาดหัวอิฐ ชื่อบัญชี น.ส.พัชรีติจันทร์ (แม่ของน้องเมฆ) เลขที่บัญชี 326-2-42585-0 หรือโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 063-3380151