X

นครฯ – แถลงจับใหญ่ ‘แก๊งคอล’ ชาวจีน เมืองคอน คาดนักการเมืองเอี่ยวแน่

นครศรีธรรมราช : ทัพตำรวจแถลงผลงานจู่โจมทลายฐานที่ตั้ง ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ที่เมืองคอน เผยใหญ่ที่สุด หลอกเหยื่อหลายประเทศ เชื่อ มีนักการเมืองเอี่ยว เตรียมขยายผลยึดทรัพย์ต่อ  

วันที่ 29 มีนาคม 2567 ที่สถานีตำรสวจภูธรฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช พลตำรวจเอกณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย พร้อมด้วย พลตำรวจโทธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.), พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8, พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการ ปูพรมตรวจค้นเป้าหมาย 8 จุดสำคัญ ในพื้นที่ อ.ฉวาง และ อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช

สามารถทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ที่สุดของไทย ซึ่งลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนไทยและชาวจีน เมื่อช่วงเที่ยง ของวันที่ 28 มี.ค.67 ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก กองบังคับการ สอท.5 ได้รับข้อมูลจากสายลับถึงพฤติการณ์อันน่าสงสัย จึงดำเนินการสืบสวนติดตาม กระที่งทราบว่าเป็นกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ที่ใช้จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสถานที่กระทำความผิดในการหลอกลวงเหยื่อในหลากหลายรูปแบบ

ทั้งการหลอกลงทุนเทรดหุ้น, ซื้อขายสินค้า, จองที่พัก, โอนเงิน จนเกิดความเสียหายกระจายไปทั่วประเทศ บช.สอท.จึงมอบหมายให้ บก.สอท.5 โดย พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 บูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสืบสวนหาข่าว และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเข้าทลายและดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดข้างต้น รวมถึงขยายผลการดำเนินการ

กระทั่ง ตำรวจ บก.สอท.5 ได้พยานหลักฐานแน่ชัด จึงนำไปขอหมายค้นพื้นที่เป้าหมาย ต่อศาลอาญา จำนวน 8 หมาย มีทั้งโรงแรม อาคารพาณิชย์ บ้านพักอาศัย และโรงงาน

จากการตรวจค้น พบกลุ่มคนจีน 55 คน คนไทยอีก 35 คน รวม 90 คน พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดหลายรายการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 228 เครื่อง, โทรศัพท์ 1,037 เครื่อง และอุปกรณ์อื่น ๆ รวม 1,294 เครื่อง/ชิ้น

นอกจากนี้ ยังพบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถืออีก 521 ซิม, สมุดบัญชีธนาคาร 80 เล่ม อาวุธปืน และสินค้าหนีภาษีอีกจำนวนมาก

โดยใน อ.ฉวาง มีทั้งหมด 7 จุด ซี่งล้วนอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.จันดี ดังนี้

จุดที่ 1 โรงแรมแห่งหนึ่ง พบบุคคลชาวจีน 11 คน  คนไทย 16 คน  คอมพิวเตอร์ 71 เครื่อง  โทรศัพท์ 178 เครื่อง  ไอแพด 4 เครื่อง  เราท์เตอร์ 5 เครื่อง  และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง พบคนไทย 1 คน อยู่ระหว่างการบรรจุสินค้าลงกล่องเพื่อส่งให้ลูกค้า คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง หนังสือเดินทาง 1 เล่ม เครื่องสำอางหนีภาษีจำนวนมาก และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ทั้งนี้ ได้ดำเนินการควบคุมตัว พร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.ฉวาง ดำเนินคดีต่อไป

จุดที่ 3 บ้านหลังหนึ่ง พบคนจีน 2 คน คอมพิวเตอร์ 57 เครื่อง โทรศัพท์ 26 เครื่อง และอุปกรณ์อื่น ๆ

จุดที่ 4 บ้านหลังหนึ่ง พบคนจีน 2 คน คนไทย 7 คน คอมพิวเตอร์ 15 เครื่อง โทรศัพท์ 8 เครื่อง เราท์เตอร์ 4 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 80 เล่ม ซิมการ์ดมือถือ 200 ซิม และอุปกรณ์อื่น ๆ

จุดที่ 5 บ้านหลังหนึ่ง พบคนจีน 1 คน คนไทย 11 คน คอมพิวเตอร์ 8 เครื่อง โทรศัพท์ 21 เครื่อง เราท์เตอร์ 5 เครื่อง สินค้าประเภทเสื้อผ้าสำเร็จรูป และอุปกรณ์อื่น ๆ

จุดที่ 6 บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้าน พบคนจีน 13 คน คอมพิวเตอร์ 24 เครื่อง โทรศัพท์ 408 เครื่อง อาวุธปืนยาว และบัตรเครดิต จำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์อื่น ๆ

จุดที่ 7 บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้าน พบคนจีน 4 คน คอมพิวเตอร์ 9 เครื่อง  โทรศัพท์ 184 เครื่อง เราท์เตอร์ 2 เครื่อง และอุปกรณ์อื่น ๆ

ต่อมา ได้ดำเนินการขยายผล จากจุดที่ 1 (โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.จันดี อ.ฉวาง) เข้าตรวจค้น

จุดที่ 8 โกดังจำหน่ายสินค้าญี่ปุ่นมือสอง อยู่บริเวณแยกนาโพธิ์ หมู่ที่ 7 อ.นาบอน  เบื้องต้น พบชาวจีน 9 คน และตามจับกุมผู้ที่หลบหนีเพิ่มเติมได้อีก 13 คน รวม 22 คน และพบคอมพิวเตอร์ 58 เครื่อง โทรศัพท์ 44 เครื่อง CPU 2 เครื่อง ซิมการ์ด 185 ซิม เราท์เตอร์ 6 เครื่อง USB 2 อัน และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

จากการตรวจค้นทั้ง 8 จุด เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ชาวจีนที่มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ฐานอั้งยี่, พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง, พ.ร.บ.ศุลกากร และอยู่ระหว่างการขยายผล ส่วนของกลาง ยึดได้จำนวนกว่า 2,000 ชิ้น

จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ชาวจีนที่ถูกจับกุมให้การอ้างว่า ส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่ดูแลส่วนต่าง ๆ ขณะที่นายทุนใหญ่ระดับสั่งการอยู่ในประเทศจีน โดยจะให้ชาวจีนด้วยกัน เดินทางเข้าไทยโดยผ่านมาจากกัมพูชา บางคนถือหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว พอรวมกลุ่มกันได้ ก็ตั้งแก๊งหลอกเหยื่อมานานเกือบปี มีการแบ่งหน้าที่กันเป็นระบบ ให้เงินค่าตอบแทนเฉลี่ยเดือนละ 40,000 บาท ขณะที่คนไทย ได้ค่าตอบแทนเฉลี่ยเดือนละ 20,000 บาท

แหล่งข่าวภายในระบุว่า จะสืบสวนสอบสวนขยายผล ไปยังผู้ให้การสนับสนุน รู้เห็น รวมถึงการยึดทรัพย์ทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งขณะนี้รู้ตัวหมดแล้ว และบางคนก็มาแสดงตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนใครจะมีหมายจับมากน้อยก็อยู่ที่พยานหลักฐาน

สำหรับเงินทุนหมุนเวียน จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนจะโยงถึงเว็บพนันใหญ่ ๆ หรือไม่นั้น ขอตรวจสอบเส้นทางอีกครั้ง แต่มั่นใจว่านักการเมืองมีเอี่ยวแน่นอน

: อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นเว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช แพลตฟอร์มชุมชนข่าวสาร 77 จังหวัด พบกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับข่าวท้องถิ่นทั่วประเทศ