วงจรปิดจับภาพโจรลักกล้วยด่างอินโดหน้าร้าน เจ้าของไม่ติดใจขอให้เลิกขโมยพร้อมรับเข้าทำงาน

16 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.ธัญยธรณ์ บุณยพัฒน์พงศา อายุ 40 ปี เจ้าของร้านเบสท์ เอกซ์เพรส  (ร้านขนส่งพัสดุ) เลขที่ 357/5-6 ถนนสาย 340 (ชัยนาท- สุพรรณบุรี) ต.บ้านกล้วย เมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ว่าทางร้านถูกโจรลักกล้วยด่างอินโด ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ขี่จักรยานยนต์มากันสองสามีภรรยาพร้อมลูกอ่อน และตรวจสอบพบว่าถูกนำไปโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก กลุ่มกล้วยด่างราคา 800 บาท ซึ่งจำได้ว่าเป็นกล้วยด่างของตนเองแน่นอน จึงอยากบอกผ่านสื่อถึงคุณโจร ว่าไม่ติดใจเอาความ ขอให้เลิกลักขโมย มาทำงานแลกเงินดีกว่า ทางร้านยินดีรับสมัครเข้าทำงาน

น.ส.ธัญยธรณ์ บุณยพัฒน์พงศา  เจ้าของร้าน เล่าว่า ต้นไม้ที่หายไปเป็นกล้วยด่างอินโด สูงประมาณ 1-1.50 เมตร ตอนเช้าออกมาหาไม่เจอจึงไปดูกล้องวงจรปิด พบว่าในช่วงเวลาประมาณ 20.40 น. ของวันที่ 15 ก.พ. 65 มีมอเตอร์ไซค์ขี่มาลักษณะย้อนศร  เลยไปแล้วย้อนกลับมาจอด ลงจากรถมายกกระถางไปเลย (ก่อนเดินถึงกระถางลื่นล้มก่อน) เนื่องด้วยกระถางใหญ่เขาออกรถมาถึงหน้าร้านกระถางหล่นจากรถ ทำให้ใบมีรอยฉีก  เขามากัน 2 คน เป็นผู้หญิงกับผู้ชายซ้อนท้ายกันมา ผู้หญิงอุ้มลูก

สำหรับมูลค่าของต้นไม้ที่หายไปขณะนี้ไม่แน่ใจราคาตลาดอยู่ที่เท่าไร ตอนที่ซื้อมากว่า 1 ปีแล้ว ราคาประมาณ 250-500 บาท ซื้อมาตั้งแต่ต้นเล็กๆ  หลังจากดูกล้องวงจรปิดแล้วมีคนมาลักไป จึงได้ตรวจสอบในเฟซบุ๊กกลุ่มกล้วยด่าง พบว่ามีการโพสต์ขายกล้วยด่าง แจ้งราคาไว้ 800 บาท พอเห็นภาพก็จำได้ว่าเป็นของเรา เพราะเห็นกระถางและมีขี้บุหรี่ 2 อัน จึงมั่นใจว่าเป็นของเราแน่นอน ประกอบกับใบกล้วยมีการฉีกขาด ถ้ามีการขายโดยทั่วไปใบจะไม่ช้ำ

อยากบอกกับคนที่มาลักกล้วยด่างไปว่า ถ้าน้องมีความเดือดร้อนเรื่องเงิน ถ้าเขาได้ดูข่าวนี้ขอให้ติดต่อกลับมาที่ร้าน มาสมัครงานที่ร้านได้เลย ขอให้ทำงานแลกเงินดีกว่า อย่ามาขโมยแบบนี้เลย สงสารลูกเขาที่ยังเล็กอยู่ เพราะภาพจากในกล้องเห็นว่าเขาอุ้มลูกเล็กอยู่ สำหรับการกระทำของเขาครั้งนี้ไม่ติดใจเอาความ เมื่อเห็นเขามีลูก รู้สึกเห็นใจเขา เพราะเขาอาจประสบปัญหาเรื่องเงินจริงและหาทางออกไม่เจอ ขอย้ำว่า “อย่าขโมยดีกว่า ขอให้เดินเข้ามาสมัครงานที่ร้านเรายินดีรับ”