เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.เอกก์ พูลบวรรักษ์ ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.สส. สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปรามยาเสพติด ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ แถลงผลการจับกุม ตัว นายเอกลักษณ์ หรือหนุ่ม พรหมแสง อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 286 หมู่ที่ 13 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์และ นายอัจฉริยะ หรือเต๊ะ แสงพารา อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 1 ถนนทุ่งศรีเมือง ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 2 ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีของกลางทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปบางส่วนและ รถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กรบ 79 ร้อยเอ็ด เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จับกุมได้ภายในบ้านเช่าเลขที่ 132/2 ถนนทุ่งศรีเมือง ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังรับสารภาพว่าเกิดเหตุในหลายพื้นที่อีกทั้งยังมีประวัติเสพยาเสพติดและถูกจับในคดีลักทรัพย์
โดยภายหลังแถลงผลการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้เข้าไปลักทรัพย์ ภายในหมู่บ้านวีพีวิว เป็นบ้านของ ด.ต.สัมฤทธิ์ ภูปรางค์ ผบ.หมู่(ป.) สภ.กมลาไสย เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 ได้เงินสดไป 3,600 บาท จากนั้นได้ไปก่อเหตุอีกภายในหมู่บ้านจัดสรร “ปาวรี” หมู่บ้านหรู ตั้งอยู่บนถนนมาประณีต เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เหตุเกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 เข้าไปลักทรัพย์ถึง 3 หลัง หลักแรกเป็นบ้านของ น.ส.จิราภรณ์ ภูผาลัย คนร้ายได้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ต นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน กล้องถ่ายรูป บัตรกดเงินสดธนาคาร และเงินสด 400 บาท หลังที่สอง เป็นบ้านของ น.ส.ณพัชนันต์ เอื้อกิ่งเพชร คนร้ายได้เงินสดไป 7 หมื่นบาทและ กำไรข้อมือ นาฬิกา พร้อมของมีค่ารวม 4 รายการ และ หลังที่สามบ้านของ นายธนา สุขาภิรมย์ คนร้ายขโมยธนบัตร กระเป๋าสะพาย รวม 6 รายการ
คดีลักทรัพย์ครั้งนี้ นายเอกลักษณ์ หรือหนุ่ม พรหมแสง ผู้ต้องหา สารภาพว่า ได้เข้าไปลักทรัพย์คนเดียว แต่จะมี นายอัจฉริยะ หรือเต๊ะ ผู้ต้องหาอีกคน คอยขี่รถจักรยานยนต์ดูต้นทาง ทั้งนี้จะเลือกก่อเหตุเข้าหมู่บ้านจัดสรรที่มีราคาแพง ซึ่งเจ้าของบ้านมีฐานะ มีทรัพย์สินจำนวนมาก และความหละหลวมของ รปภ.หมู่บ้าน เพราะจะคุ้มค่ากับการเสี่ยง และเลือกตัวบ้านที่ไม่ติดลูกกรง โดยเฉพาะที่หมู่บ้านปาวรีนั้น นายเอกลักษณ์หรือ หนุ่ม พรหมแสง ได้ปีนข้ามรั่วเข้าไปก่อนที่จะปีนเข้าบ้าน อาศัยจังหวะในช่วงระหว่างเวลา 01.00 – 04.00 น. และบ้านที่ไม่มีคนอยู่ ซึ่งได้สร้างความหวาดผวาให้กับผู้อยู่อาศัย แต่ตำรวจก็สามารถจับตัวได้ในที่สุด
ด้านน.ส.ณพัชนันต์ เอื้อกิ่งเพชร อายุ 36 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ปัญหานี้ต้องการให้ รปภ.หมู่บ้านตรวจสอบป้องกันให้มากกว่านี้เนื่องจากค่าส่วนกลางก็เสีย แต่ทำไมถึงปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา แต่ก็ต้องขอคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามรถจับกุมตัวคนร้ายได้
ส่วนนางบัวเฮือง ถิ่นมีผล อายุ 67 ปี ผู้เสียหายอีกคนบอกว่า ในช่วงเกิดเหตุตนอยู่กับหลานสองคนและได้ยินเสียคนเข้ามาขโมยของ แต่ก็ไม่กล้าออกมา เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย แต่เมื่อตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้เชื่อว่าได้ก่อเหตุในหลายท้องที่ เพราะในเขตอำเภอยางตลาดก็มีการลักทรัพย์หมู่บ้านจัดสรรเช่นกัน ทั้งนี้จากการสอบประวัติทั้งสองคนมีประวัติเกี่ยวพันยาเสพติด ทั้งนี้สำหรับผู้เสียหายที่คาดว่าจะถูกสองคนร้ายนี้ขโมยของก็สามารถติดต่อเพื่อของตรวจสอบของกลางที่ตำรวจได้ทำการยึดมาได้ในขณะนี้ด้วยทั้งนี้สิ่งที่ต้องการสำหรับหมู่บ้านจัดสรรเพื่อความไม่ประมาท ผู้บังคับการฯ แนะนำให้เจ้าของหมู่บ้านติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมต่อไป
อย่างไรก็ตามภายหลังแถลงข่าว เจ้าของหมู่บ้านจัดสรร ปาวรี ได้มอบเงินสดจำนวนหนึ่งให้กับชุดจับกุมเพื่อเป็นการแสดงความของคุณและเป็นขวัญกำลังใจต่อไป
