X

ฟ้อง “ทักษิณ” ประธานสถาบันการเงินชุมชนบ้านหินโค่ง หลังเงินหาย 4 ล้านบาท

สถาบันการเงินชุมชนบ้านหินโค่ง ฟ้อง “ทักษิณ” ประธานสถาบันฯ หลังเงินหาย 4 ล้านบาท ด้านสมาชิกกว่า 317 บัญชี เดือดร้อนหนักถอนเงินไม่ได้แม้แต่บาทเดียว  เพราะเงินไม่มี

เวลา 11.00 น. วันที่ 6 เมษายน 2562 ที่ศาลาหมู่บ้านบ้านหินโค่ง ม.9 ต.ห้วยแร้ง อ.เมือง จ.ตราด นายพงษ์สันติ์ เครือปินไชย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เป็นประธานประชุมหมู่บ้านประจำเดือน โดยมีชาวบ้านหมู่ 9 กว่า 30 คน ร่วมประชุม โดยสาระสำคัญในการประชุมวันนี้ คือ ปัญหาด้านการเงินของสถาบันการเงินชุมชนบ้านหินโค่ง ที่คณะกรรมการสถาบันฯ ชุดใหม่ ตรวจสอบพบเงินจำนวนกว่า 4 ล้านบาทหายไป โดยมีนายทักษิณ ไกรฉวี ประธานสถาบันการเงินชุมชนบ้านหินโค่ง และประธานกองทุนหมู่บ้าน พร้อมคณะกรรมการร่วมประชุมรับปัญหา

โดยนายพงษ์สันติ์ กล่าวในที่ประชุมว่า เนื่องจากมีสมาชิกจำนวนมากของสถาบันการเงินชุมชนบ้านหินโค่ง ไม่ดำเนินการชำระเงินที่กู้ยืมมาจากสถาบันฯ เนื่องจากมีข้อสงสัยเรื่องการชำระเงินที่กู้ยืมมา ไม่มีความโปร่งใส ประกอบกับมีสมาชิกหลายคนที่นำเงินมาฝากไว้ ไม่สามารถถอนเงินออกไปได้ เพราะสถาบันไม่มีเงินพอที่จะให้สมาชิกถอนเงินออกไปได้ โดยมีผู้เดือดร้อนจำนวน 317 บัญชี และเงินหายไปจำนวน 4,370,507 บาท ทำให้สมาชิกไม่มีความเชื่อมั่นในการชำระหนี้ โดยความผิดปกติทั้งหมดถูกตรวจสอบเจอหลังเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใใหม่เมื่อกลางปี 2561 ที่ผ่านมา

“เบื้องต้นได้สั่งให้นายทักษิณ ไกรฉวี ประธานสถาบันการเงินชุมชนบ้านหินโค่ง หยุดทำหน้าที่ชั่วคราวไปก่อน โดยให้รองประธานปฏิบัติหน้าที่ประธานเป็นการชั่วคราวไปก่อน เนื่องจากนายทักษิณ ไกรฉวี และนางกลิ่นสุคนธ์ อดีตที่ปรึกษาและการเงินสถาบันการเงินชุมชนบ้านหินโค่ง ถูกคณะกรรมการสถาบันการเงินชุมชนบ้านหินโค่ง ตั้งทนายฟ้องศาลจังหวัดตราด ในฐานความผิดยักยอกทรัพย์ เนื่องจากที่ผ่านทางคณะกรรมการสถาบันมีความพยายามและให้โอกาสให้ทั้งสองคนชี้แจงถึงปัญหาและเงินที่หายไป แต่กลับไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนมากนัก” นายพงษ์สันติ์ กล่าว

ด้านนายทักษิณ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมาจากที่คณะกรรมการชุดเดิมก่อนจะหมดวาระ มีมติให้ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้เป็นร้อยละ 12 บาทคงที จากเดิมร้อยละ 9  ลดต้นลดดอก แต่บุคคลกลุ่มหนึ่งไม่พอใจและไม่ชำระหนี้ให้สถาบัน ทางสถาบันได้พยายามเตือนและไกล่เกลี่ยกับบุคคลกลุ่มนี้ให้ชำระเงิน จนเมื่อคณะกรรมการจำนวนหนึ่งหมดวาระลงไปเมื่อวันที่ 3 กรกรฎาคม 2561

และมีคณะกรรมชุดใหม่เข้ามา จนมีการตรวจสอบการเงินทั้งหมดของสถาบัน จนพบว่ามีเงินจำนวนกว่า 4 ล้านบาทหายไป โดยที่ตนเองไม่รู้เรื่องว่าเงินนั้นหายไปได้อย่างไร เพราะทางสถาบันแจ้งเจ้าหน้าที่การเงินจำนวน 2 คน เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องนี้ แต่ในขั้นตอนการทำงานแต่ละวันจะมีการตรวจสอบบัญชีทั้งรับรับและรายจ่าย จากนั้นจำนำเงินส่วนที่เหลือมามอบให้เพื่อนำไปฝากธนาคารทุกวันจันทร์

“ส่วนเงินจำนวน 4 ล้านกว่าบาทที่หายไปนั้น ยังไม่ได้รับการชี้แจงจากผู้รับผิดชอบ มาเกิดจากอะไร หายไปได้อย่างไร เกิดจากการยักยอกเงินหรือไม่ เพราะเงินจำนวน 4 ล้านบาท เป็นเงินที่เยอะมาก สำหรับตัวเอง แต่เมื่อตนเองอยู่ในฐานะจำเลย ก็พร้อมจะเข้าไปชี้แจงและแสดงหลักฐานความบริสุทธิ์ใจต่อศาล ในวันที่ 17 มิถุนายน 2562 นี้ ” นายทักษิณ กล่าว

นอกจากนี้คณะกรรมการสถาบันฯ ชุดปัจจุบัน ได้เข้าตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของสถาบันย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 จนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่าข้อมูลในเอกสารและข้อมูลที่บันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ มีพิรุธหลายจุด ทั้งใบเสร็จชำระเงินของลูกหนี้ไม่ตรงกับรับชำระเงินของสถาบัน ระเบียบวาระการประชุมทีมีการแก้จำนวนเงิน แก้ไขมติในที่ประชุม ภายหลัง รวมไปถึงการกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินทุนที่กู้เงินมาใช้ผิดระเบียบ ทำให้คณะกรรมการชุดปัจจุบัน ต้องตรวจสอบเอกสารทั้งหมดทีมีมากว่าพันใบ ตรวจสอบทีละชิ้นจากเอกสารทั้งหมดที่มี จนพบว่ามีเงินหายไป 4,370,507 บาท

อีกหนึ่งช่องทางติดตามข่าวตราด Line@ 
เพิ่มเพื่อน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กฤษฎาพงษ์ แววคล้ายหงษ์

กฤษฎาพงษ์ แววคล้ายหงษ์

ADmin : สำนักข่าวตราดทีวี จังหวัดตราด