“ช้างป่า” บุกทำลายสวนผลไม้ชาวบ้านในพื้นที่ธารโต

ช้างป่าบุกทำลาย สวนผลไม้ชาวบ้านในพื้นที่  อ.ธารโต จ.ยะลา หลายแห่ง นายอำเภอรุดลงพื้นที่ตรวจสอบ เตรียมหาวิธีไล่ช้างช่วยเหลือชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 4 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา ว่า นายอนิรุธ บัวอ่อน นายอำเภอธารโต  จ.ยะลา ได้เดินทางไปยังหมู่ 3 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา หลังจากที่นายเสกสรร ไตรสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ได้แจ้งว่า มีช้างป่าประมาณ 3-5 ตัว ได้ข้ามเขตแดนระหว่างเขตแดนประไทยและประเทศมาเลเซียที่บ้านซอยเจ็ด – บุตรหลาน ม.3 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา ลงมาหากินในพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน ทำให้พืชผลทางการเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้ง ทุเรียน มังคุด กล้วย สับปะรด และต้นมะพร้าว ที่ชาวบ้านปลูกไว้ ซึ่งล่าสุด ชาวบ้านพบรอยเท้า และมูลช้าง ใกล้เขตชุมชนอยู่อาศัย โดยห่างจากเขตแดนประเทศไทยประมาณ 4-5 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัว เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากช้างป่า

โดยนายอนิรุธ บัวอ่อน นายอำเภอธารโต พร้อมด้วย อส.ธารโต และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมด้วย ชรบ.หมู่บ้าน นายก อบต.ตำบลคีรีเขต ได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่ทางการเกษตร และพื้นที่ ที่พบร่องรอยเท้าของช้างป่า ในสวนของชาวบ้าน โดยพบว่า รอยเท้าของช้างป่า เป็นจำนวนหลายจุด และขนาดของรอยเท้ากว้างกว่า 10 นิ้ว ซึ่งจุดที่พบรอยเท้าของช้างป่านั้น อยู่ในเขตที่ดินของชาวบ้าน ที่ปลูกพืชผลทางการเกษตร และพบร่องรอยความเสียหาย ที่เกิดการจากการหากินของช้างป่า

ซึ่งจากการสอบถามนายประทีป ทองคำ นายก อบต.คีรีเขต ก็ทราบว่า เขตแดนที่ติดกับประเทศไทย เป็นพื้นที่ป่าไม้ของประเทศเพื่อนบ้าน และขณะที่มีการทำสัมปทานป่าไม้ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ช้างป่าดังกล่าว หนีเข้ามาในฝั่งของประเทศไทย ที่ติดกัน ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ช้างป่าได้หากินในแถบใกล้กับเขตแดน แต่เป็นสวนทุเรียนของชาวบ้าน ที่กำลังออกดอก และมีลูกทุเรียนอยู่หลายต้น ช้างป่าได้หากินและทำลายต้นทุเรียนของนายบุญเตียง ในโนน ชาวบ้านได้รับความเสียหายไปเกือบ 100 ต้น จากนั้น ก็เดินลัดเลาะตามป่า และตามถนนคอนกรีตในหมู่บ้านหาของกินมาเรื่อย ๆ จนใกล้เข้ามาในเขตชุมชน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านจำนวนหลายครอบครัวจนไม่กล้าที่จะออกไปกรีดยางในช่วงค่ำคืน   ขณะที่นายบุญเพง เสนาวัง อายุ 69 ปี ชาวบ้านที่มีอาชีพรับจ้างกรีดยางและทำการเกษตร ซึ่งได้รอดชีวิตจากการถูกช้างป่าล้อมบ้านเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน กล่าวว่า ในช่วงค่ำมีช้างป่าลงมาประมาณ 3 ตัว ที่ตนเองเห็น และได้เดินเข้ามาข้างบ้านล้อมบ้านไว้ เหมือนกับกำลังหาของกิน แต่ตนเองก็นิ่งเงียบอยู่ในบ้าน จนช้างป่า ได้พากันเดินออกไป รุ่งเช้าจึงได้ออกจากบ้าน ลงมาอาศัยอยู่กับบ้านญาติ ไม่กล้ากลับเข้าไปนอนที่บ้านภายในสวน

นายเสกสรร ไตรสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่า ขณะนี้ ได้แจ้งประสานไปยังทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับปรึกษาหารือกับลูกบ้าน คนในชุมชน ให้มีการระมัดระวังในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน และหากยังไม่จำเป็น ก็แจ้งให้ลูกบ้านอยู่ภายในบ้านยามค่ำคืน ไม่ควรจะเดินทางสัญจรไปไหนมาไหน เนื่องจากยังไม่พบจุดที่ช้างป่าอยู่อาศัย หรือ หลบซ่อนตัวอยู่ จึงอาจจะได้รับอันตรายได้ หากมาพบโขลงช้างป่ากำลังหากิน  โดยนายอนิรุธ บัวอ่อน นายอำเภอธารโต ได้ประสานการปฏิบัติกับผู้ใหญ่บ้าน และชุดดูแลความปลอดภัยหมู่บ้าน ให้เฝ้าระวังพื้นที่ และแจ้งความเคลื่อนไหวอย่างเร่งด่วนหากพบโขลงช้าง เพื่อจะได้ประสานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาร่วมทำการผลักดัน หรือหาวิธีการแก้ไขเบื้องต้น เพื่อไม่ให้ ชาวบ้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวได้รับอันตรายจากช้างป่า ซึ่งต้องให้ผู้ที่มีความชำนาญ หรือนักวิชาการเข้ามาหาวิธีช่วยเหลืออีกครั้ง ส่วนพืชผลทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายนั้น จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจเพื่อประเมินความเสียหายและให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับพื้นที่หมู่ 3 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา  ได้รับแจ้งจากมะรอมลี เจะสนิ ชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีช้างป่าแม่ลูก ออกจากป่าเข้ามาหาของกินอยู่ภายในสวนผลไม้ของตน โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน จะพบเห็นว่า เดินอยู่ภายในสวนผลไม้ นอกจากนั้นในช่วงค่ำก็จะมีช้างป่า จำนวน 3-5 ตัว เข้ามาในพื้นที่สวนผลไม้ของชาวบ้านด้วยเช่นกัน  ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ บ้านแหร และบ้านซาไก ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา  ได้รับความเดือดร้อนจากช้างป่าฝูงนี้ที่ลงมาทำลายสวนผลไม้ได้รับความเสียหายจำนวนหลายแห่งแล้ว