รวบแล้วสองโจ๋มือปืนสงครามยิงถล่มคู่อริดับ ย่านสำโรงใต้

รวบแล้วสองโจ๋มือปืน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มคู่อริดับ ย่านสำโรงใต้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองแยกห้องสอบปากคำขยายผล เพื่อติดตามอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงผู้ร่วมขบวนการในการก่อเหตุครั้งนี้

อ่านข่าว ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุชายถูกยิงด้วยอาวุธสงคราม พร้อมสั่งการเร่งไล่ล่าผู้ก่อเหตุ
อ่านข่าว ลงพื้นที่กดดันผู้ก่อเหตุยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม พบยาบ้าเกือบ 2 หมื่นเม็ด ตำรวจรู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว
อ่านข่าว พ่อแม่เหยื่อถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามนิมนต์พระทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ด้านตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ
อ่านข่าว ผบช.ภ. 1 ลงพื้นที่บ้านผู้ก่อเหตุยิงถล่มคู่อริด้วยอาวุธสงคราม พร้อมยึดรถ 3 คัน ส่วนผู้ก่อเหตุกำลังเร่งล่าตัว

จากกรณี นายธนภูมิ (หรือภูมิ) คงเกิด อายุ 32 ปี ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธปืนสงครามจนเสียชีวิต ภายในซอยโรงงานพลาสติก หมู่ 19 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม 2565

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ที่ สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้คุมตัว นายเทียนชัย(หรือออม) สุขเลิศสิน อายุ 22 ปี และนายวรฉัตร(หรือใหม่) วรสูตร อายุ 21 ปี สองมือปืนที่ก่อเหตุยิงนายธนภูมิ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร มาสอบปากคำขยายผลเพิ่มเติม โดยสามารถติดตามไปจับกุมตัวทั้งสองคนได้ที่ จังหวัดชัยภูมิ ขณะหลบหนีไปอยู่บ้านเพื่อนและเตรียมออกนอกประเทศ

ขณะที่ น้าสาว ของ นายใหม่ หลังทราบข่าวว่านายใหม่ถูกจับกุมตัว รีบเดินทางมารอพบหน้านายใหม่ ที่ สภ.สำโรงใต้  เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า นายใหม่ ตนเองเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก เนื่องจากพ่อแม่ของนายใหม่แยกทางกัน เลี้ยงมาจนนายใหม่โตและไปมีครอบครัวจึงแยกกันอยู่ ปัจจุบันนายใหม่มีลูกเล็กเพียงขวบเศษ นิสัยส่วนตัวของนายใหม่ยอมรับว่าเป็นคนดื้อ และอารมณ์ร้อน ที่ผ่านมาพยายามเลี้ยงดูและอบรมคอยเตือนตลอดไม่ให้เข้าไปคบเพื่อนหรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไม่ดี แต่ก็ไม่เคยเชื่อฟัง การลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ได้ยินเพียงจากข่าวซึ่งตนเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าหลานชายจะกล้าลงมือทำ หลังเกิดเรื่องไม่สามารถติดต่อหลานชายได้จนกระทั่งทราบว่าถูกจับกุมจึงเดินทางมารอพบเพื่อสอบถามหลานชายจากปากของเขาเอง

ด้านสองผู้ต้องหาให้การรับสารภาพยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยร่วมกันใช้อาวุธปืน M-16 และปืนอาก้า ดักซุ่มยิงใส่ผู้ตายขณะขี่รถมาถึงจุดนัดหมาย โดยสาเหตุเบื้องต้นจากคำให้การระบุว่ามาจากการที่ นายภูมิ หรือคนตาย เคยเอาปืนไปจำนำกับ นายศุภวิทย์(หรือต้นรั่ว) สายธนู ก่อนหน้านี้ แล้วผู้ตายเคยทวงถามเพื่อจะขอปืนคืนและถูกปฏิเสธทำให้ผู้ตายบุกไปทวงปืนที่บ้านพักของนายต้นรั่ว ทำให้นายต้นรั่วซึ่งเจ้าตัวหลบหนีการจับกุมในคดีไม่รายงานตัวต่อศาลคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยยังคงหลบหนีอยู่ต่างจังหวัด หลังจากนายต้นรั่ว ทราบข่าวว่าผู้ตายไปทวงปืนที่จำนำไว้ ทำให้เกิดความโกรธแค้นเหมือนถูกคนตายบุกไปหยามหน้า จึงสั่งการให้ลูกน้องคนสนิท ก็คือผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ไปยิงผู้ตาย จนมีการลงมือก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองแยกห้องสอบปากคำขยายผล เพื่อติดตามอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงผู้ร่วมขบวนการในการก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งเป็นคนในแก๊งของนายต้นรั่ว รวมถึงหาเบาะแสแหล่งกบดานของนายต้นรั่ว คนบงการฆ่าในครั้งนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมในคดีไม่รายงานตัวต่อศาลคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา