จากกรณีเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตกระดาษ ย่านท้ายบ้าน ล่าสุดนายไพบูลย์ พินเที่ยง กำนันตำบลท้ายบ้าน เปิดโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตกระดาษ ว่า รถดับเพลิงมาช้าและโรงงานไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัย
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโกดังเก็บก้อนกระดาษอัดก้อนของ บริษัท พี.ซี.ไอ. อุตสาหกรรมกระดาษ จำกัด เลขที่ 247 หมู่ 2 ถนนท้ายบ้าน หมู่ 2 ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ที่เก็บก้อนกระดาษอัดก้อนเอาไว้กว่า 1 หมื่นตัน แม้เจ้าหน้าที่จะช่วยกันระดมฉีดน้ำทั้งวันทั้งคืนนานกว่า 5 วันแล้วเพลิงก็ยังดับไม่สนิทยังคงมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากก้อนกระดาษในบางจุด จากเหตุการณ์ดังกล่าวเขม่าเถ้ากระดาษได้ปลิวออกไปขยายเป็นวงกว้างเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ทำให้ชาวบ้านต่างตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ที่เกิดการบานปลายขนาดนั้นเป็นเพราะว่ารถดับเพลิงมาช้า และภายในโรงงานผลิตกระดาษที่เกิดเหตุไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัย มีท่อประปาหัวแดงติดตั้งอยู่หน้าโรงงานแต่ใช้การไม่ได้ จึงทำให้เหตุการณ์บานปลายไฟได้ลุกลามไปลุกไหม้กองก้อนกระดาษภายในโกดังจนเกือบหมดทั้งโกดังที่มีเก็บอยู่กว่า 1 หมื่นตัน
ในช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 26 พฤศจิกายน 2561 นายไพบูลย์ พินเที่ยง กำนันตำบลท้ายบ้าน ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เขตอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมแกนนำชุมชน ได้เปิดที่ทำการกำนัน ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้กองกระดาษอัดก้อนภายใน บริษัท พี.ซี.ไอ. อุตสาหกรรมกระดาษ จำกัด นั้นทำให้เห็นว่าการดับเพลิงค่อนข้างล่าช้า ขณะที่จุดเกิดเพลิงไหม้ อยู่ในเขตเทศบาลตำบลบางปู แต่รถดับเพลิงของเทศบาลตำบลบางปูกลับมาช้ากว่ารถดับเพลิงของเทศบาลอื่น ขณะที่มีศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่อยู่ที่สำนักงานเทศบาลหลังเก่าเพียงแห่งเดียว ทำให้การเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเป็นไปอย่างล่าช้า ต้องใช้เวลาในการเดินทางไม่ต่ำกว่า 30 นาที จึงมีความเห็นว่าน่าจะมีการจัดตั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพราะพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลบางปูส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมเกือบทั้งหมด และเรื่องเพลิงไหม้เป็นเรื่องที่ต้องแข่งกับเวลา
จากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ จะเห็นว่าความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ของงานป้องกันของเทศบาลบางปู ขาดการประสานงานและการสั่งงานที่เป็นระบบ อุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งไฟแสงสว่างก็ไม่มี การบังคับบัญชาสับสน จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การดับเพลิงล่าช้า ในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมาเทศบาลบางปูได้ผ่านงบประมาณในการจัดซื้อรถดับเพลิงไปแล้วแต่ปัจจุบันยังไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้
ขณะเดียวกันก็พบว่า โรงงานที่เกิดไฟไหม้ ได้นำกากขยะไปถมที่ ซึ่งในเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างตรวจสอบ รวมทั้งระบบการป้องกันอัคคีภัยภายในโรงงานดังกล่าวก็ไม่มี ส่วนท่อน้ำดับเพลิงหัวแดงที่ติดตั้งไว้หน้าโรงงาน แต่ไม่มีระบบจ่ายน้ำ จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การดับเพลิงล่าช้า ทำให้เกิดผลกระทบตามมา
