พล.ต.ต.โชคชัย เหลืองอ่อน รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ. จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สำโรงใต้ ร่วมกันส่งมอบคืนพระพุทธรูปอายุ กว่า 200 ปี ให้กับวัดท้องคุ้ง หลังถูกลักไปและตามคืนมาได้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2565 พล.ต.ต.โชคชัย เหลืองอ่อน รอง ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาที่วัดท้องคุ้ง ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเป็นประธานส่งมอบคืนพระพุทธรูปและเทวดาประจำวัดซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่มีอายุกว่า 200 ปี และถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนลักเอาไปเมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ สามารถติดตามคืนมาได้ และนำมาถวายคืนวัด เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับชาวจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีพระครูสุนทรสุตสาร เจ้าอาวาสวัดท้องคุ้ง ได้นำคณะสงฆ์และญาติโยมร่วมกันทำพิธีเจริญพุทธมนต์ต้อนรับการกลับมาของพระพุทธรูปและเทวดาประจำวัด
พระครูสุนทรสุตสาร เจ้าอาวาสวัดท้องคุ้ง เปิดเผยว่า พระพุทธรูปที่หายไปนั้นเป็นพระเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สร้างวัดขึ้นมา โดยหลังจากทางวัดมีการก่อสร้างยกพื้นโบสถ์จึงต้องเคลื่อนย้ายพระพุทธไปไว้ในกุดเก่าสูง 3ขั้น โดยปิดล็อกอย่างแน่นหนาอีกทั้งทางเข้าออกกุฏิดังกล่าวลึกลับและต้องขึ้นลงบันไดถึงสามชั้น โดยไม่คาดคิดว่าจะมาถูกคนร้ายลอบเขาขโมยไปรวมทั้งหมด 4 องค์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย 3 องค์ ขนาดใหญ่ อายุมากว่า 200 ปี และพระพุทธรูปปางเทวดา 1 องค์ โดยเหตุเกิดตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา และในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามคืนมาได้จำนวนสององค์ พร้อมทั้งคนที่รับซื้อพระทั้ง 2 องค์เอาไว้ ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมคนร้ายและติดตามกลับมาได้แล้วบางส่วน เพราะพระพุทธรูปที่หายไปนั้น ถือเป็นพระคู่วัดตั้งแต่ก่อตั้งวัดแห่งนี้มา อีกทั้งเป็นที่ยึดเหยี่ยวจิตใจญาติโยมในพื้นที่เป็นอย่างมาก เชื่อว่าเป็นความสักสิทธิ์ของท่านที่กลับมาอยู่ที่วัดดั่งเดิม
พ.ต.อ. จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ เปิดเผยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ได้รับแจ้งความจากทางวัดท้องคุ้งว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยพระพุทธรูปเก่าแก่ของวัดไป หลังจากได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงหาเบาะแสของคนร้ายและทราบว่าพระพุทธรูปที่ถูกลักไปเป็นที่ต้องการของกลุ่มเซียนพระที่จะนำไปเสนอขายต่อให้กับกลุ่มคนที่มีฐานะร่ำรวย และผู้มีอิทธิพล ซึ่งพระพุทธรูปที่หายไปนั้น มีความเชื่อทางด้านพุทธคุณ เสริมสร้างบารมี และเมตตามหานิยม จึงเป็นที่ต้องการของวงการพระเครื่องเป็นอย่างมาก จนกระทั่งล่าสุดได้พบเบาะแสของพระพุทธรูปที่หายมีการโพสต์ขายในกลุ่มพระเครื่อง ฝ่ายสืบสวนจึงเฝ้าติดตามและหาข่าวจนแน่ชัดจึงว่าพระพุทธรูปที่หายไปมีนาย ปฎิภาณ แหวนพิรอด อายุ 33 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัวนาย ปฎิภาณ ผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ที่บ้านพัก ในย่านเทิดไท กทม. และทำการสอบสวนขยายผลติดตามไปยึดของกลางได้ที่จังหวัดเพชรบุรี โดยยึดของกลางเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่สร้างขึ้นสมัยต้นยุครัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2356 หรือราว 209 ปี มูลค่า 1ล้านบาท นอกจากนั้นยังสามารถยึดพระพุทธรูปพิมพ์เทวดาดีดพิณ อายุพอ ๆ กัน มูลค่ากว่า 8 แสนบาท หลังจากนี้จะเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งหาเบาะแสพระที่เหลือเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่มาก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยไว้ และในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ นาย ปฎิภาณ ผู้ก่อเหตุว่าลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สิน หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร
พ.ต.อ.จักรพงศ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะเร่งหาเบาะแสของคนร้ายที่เหลือและติดตามพระพุทธรูปส่วนที่เหลือมาคืนให้กับวัดดังกล่าวให้ได้โดเร็ว และจากการดูแผนประทุษร้ายแล้วคาดมีการวางแผนมาอย่างดี มีการเตรียมการมาอย่างดี ลงมือทำกันเป็นขบวนการตามใบสั่งในตลาดกลุ่มเซียนพระ
