ระนอง เร่งช่วยเหลือชาวบ้านน้ำเซาะตลิ่งทรุดทำบ้านพัง
ระนอง-รองผู้ว่าฯ ระนองพร้อม ปภ.ระนอง เทศบาลตำบลบางนอนและจิตอาสารุดเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากตลิ่งริมคลองทรุดตัวทำบ้านพังเสียหาย
วันที่ 11 ต.ค.64 จากสถานการณ์ฝนตกหนักในเขตพื้นที่ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนจนถึงเที่ยงวันที่ผ่านมา ส่งผลทำให้บ้านเรือนที่อยู่ริมคลองบางนอน ซอยโรงเรียนเอกสิน หมู่ 2 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง ได้รับผลกระทบน้ำกัดเซาะตลิ่งได้รับความเสียหาย โดยเมื่อเวลา 15.00 น. ทางจังหวัดระนองได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากเหตุอุทกภัยบ้านเรือนได้รับความเสียหาย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนองพร้อมนางสำเนียง มณีรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนองและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จึงรีบเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุ บ้านเลขที่ 72/93 หมู่ 2 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง พบว่าที่ดินรอบๆบริเวณบ้านและโรงจอดรถได้เกิดการทรุดตัวลงเป็นทางยาวกว่า 20 เมตร จนเหลือแต่ตัวบ้าน โชคดีขณะที่เกิดเหตุไม่มีใครได้รับอันตราย แต่ยังหวั่นว่าคืนนี้หากมีน้ำป่าจากแนวเทือกเขาไหลลงมาเพิ่มอีกอาจจะทำให้ดินตลิ่งที่เหลืออยู่พังไหลลงไปในคลองทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีฝนที่จะตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
โดย นางเยาวลักษณ์ ห่วงจริง อายุ 35 ปี (ลูกสะใภ้เจ้าของบ้าน)กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุไม่มีฝนตกหนักหรือลมแรงแต่อย่างใด จู่ๆก็ได้ยินเสียงครืนๆๆโครม คล้ายเสียงฟ้าผ่า พบว่าโรงรถพร้อมกับต้นไม้รอบๆบริเวณบ้าน ตลิ่งได้พังถล่มลงไปในคลองบางนอน(คลองยูร) เป็นทางยาวกว่า 20 เมตร เห็นแต่ยอดต้นมะพร้าวสะตอ,ต้นไม้ไผ่ ที่ทรุดตัวลงไปลึกกว่า 3-4 เมตร
นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า พบจากการตรวจสอบจุดที่เกิดดินสไลด์นั้น บางจุดอาจเป็นโพลง ทำให้น้ำสามารถไหลลอดผ่านได้ เมื่อสิ่งก่อสร้างไม่มีดินรับน้ำหนักเกิดการทรุดตัวลง ขณะนี้สั่งห้ามเข้าไปในจุดที่เกิดดินสไลด์ เพื่อป้องกันอันตรายกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ พร้อมสั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดและปภ.ระนอง ทำการรวบรวมข้อมูลจุดเกิดเหตุ
เพื่อทำการเยี่ยวยาพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือของทางราชการ และทำการซ่อมแซมจุดที่เกิดดินสไลด์ โดยจะต้องมีการตอกเสาเข็มทำผนังกันตลิ่งพังให้แข็งแรงขึ้นอีก เบื้องต้นได้ประสานไปยังเทศบาลบางนอนและอบจ.ระนอง พร้อมนำกระสอบทรายและถุงยังชีพมาให้ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบเพื่อเป็นการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อน
