ระนอง สั่งตรึงเข้มตลอดแนวชายแดน 100% ป้องกันลักลอบเข้าเมืองสกัดไวรัสระลอก 2 จากเมียนมาระบาดเข้าไทย
ระนอง-นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากการที่ทางกระทรวงมหาดไทยสั่งด่วน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 10 จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เข้มงวดมาตรการป้องกันโรค ป้องกันโควิด-19 ระลอก 2 อย่างเข้มงวดและเคร่งครัดที่สุด
ทั้งนี้เนื่องจากพบว่าสถานการณ์ในเมียนมา จากการระบาดระลอกที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563 พบผู้ป่วยแล้วจำนวน 580 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ที่รัฐยะไข่ เมืองซิตตเว ซึ่งเป็นเมืองเอก จนทำให้มีการล็อกดาวน์เมืองซิตตเวอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา ลำไยคริสตัลจัมโบ้สีม่วง ผลไม้หลากรสชาติ กก.500-800 บาท จองกันข้ามปี
- 'บิ๊กโจ๊ก' อุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการ ขู่ ฟ้องกราวรูดทั้ง สตช.
- บุกจับร้านขายบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า เหล้าเถื่อน กลางเมืองภูเก็ต พบของกลางจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
- ชมรมคนรักถิ่นนครพนมร่วม ปปส.จัดโครงการเสริมสร้างความเข็มแข็งให้ชุมชนแบบยั่งยืน
สำหรับ 10 จังหวัด ที่มีพื้นที่ติดชายแดนประเทศเมียนมา ที่ต้องวางมาตรการเข้มข้นตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดชุมพร จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดระนอง และจังหวัดราชบุรี
นายจตุพจน์ กล่าวว่าต่อว่า สำหรับในส่วนของจังหวัดระนอง ตนได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระนอง ทหารเรือ และนายอำเภอทั้ง 5 อำเภอของ จ.ระนอง เพื่อรับมาตรการไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยจ.ระนองจะคุมเข้มแนวชายแดนในทุกจุดทั้งทางบก และทางทะเล 100 % โดยเริ่มจาก จนท.ทหาร จนท.ตชด. จัดชุดลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนเพิ่มความถี่ และครอบคลุมในทุดจุดของพื้นที่แนวชายแดน ในส่วนของฝ่ายปกครอง พลเรือน ราษฏร ให้นายอำเภอทั้ง 5 อำเภอ สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุด อปพร.อาสาสมัครชุมชนหมู่บ้าน
ออกมาตรึงกำลังในทุกพื้นที่ตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะจุดพื้นที่ที่มีแนวชายแดนติดต่อกัน พร้อมเร่งสร้างรับรู้ให้กับประชาชนในหมู่บ้านชายแดน คอยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังการลักลอบข้ามแดน ส่วนทางทะเล ได้ประสานไปยังทัพเรือภาคที่ 3 ให้นำเรือตรวจการเข้ามาสนับสนุนการตรวจลาดตระเวนตลอดตามแนวชายแดน รวมทั้งการบูรณาการกับเรือตรวจการณ์ชายฝั่งของหน่วยงานต่างๆที่ประจำการอยู่ ส่วนการขนส่งสินค้าให้กลับมาใช้มาตรการเดิมนั่นคือยังสามารถขึ้นลงสินค้าได้แต่คนประจำเรือไม่สามารถขึ้นมาบนฝั่ง และรอควรที่จะจอดอยู่ท่าเรือไม่นานเกิน 7 ชม.
นายจตุพจน์กล่าวต่อว่าเรื่องดังกล่าวนี้เป็นวาระสำคัญระดับชาติ ที่ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจในการป้องกันและสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระละลอกที่2 ที่จะไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกสองขึ้นในประเทศไทย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: