นนทบุรี ไฟไหม้กุฎิไม้สักกลางดึก หลวงตาลุกเข้าห้องน้ำรอดตายหวุดหวิด

ไฟไหม้กุฎิไม้สักวัดย่านเมืองนนท์กลางดึก หลวงตาเผยลุกเข้าห้องน้ำรอดตายหวุดหวิด 

เมื่อเวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุมีไฟไหม้กุฎิภายในวัดตำหนักใต้ถ.สนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสานขอความช่วยเหลือจากรถดับเพลิงเทศบาลนครนนทบุรี เพื่อสกัดไฟที่กำลังลุกไหม้

ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นกุฎิไม้สักยกใต้ถุนสูง เรือนที่ 8 ของพระธีรวุฒิ สุทธิอาภา อายุ 60 ปี 23 พรรษา ซึ่งจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว กำลังยืนมองไฟที่กำลังลุกไหม้ด้วยความตกใจ พระธีรวุฒิ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณตี 3 ตนได้ลุกออกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกที่ชั้นล่าง ขณะที่กำลังเดินขึ้นกลับไปที่ห้อง ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้เหมือนกลิ่นของสายไฟ จึงเดินหาที่มาของกลิ่นจึงพบว่าสายไฟฟ้าที่มุมห้องด้านขวา ไฟกำลังลุกไหม้ติดไฟและสายไฟที่ลุกติดไหม้ก็หยดใส่กองผ้าจีวรเก่าจนเกิดไฟลุกไหม้ตามมาอย่างรวดเร็ว ตนพยายามเอาผ้าห่มไปคลุมทับเพื่อจะดับไฟแต่ไม่เป็นผล ไฟยังคงลุกไหม้อยู่ ตนจึงพยายามลงไปเอาถังน้ำมาราดดับไฟ แต่เนื่องจากตนอายุเยอะแล้วประกอบกับป่วยหลายโรค ทำให้ไม่สามารถดับไฟที่กำลังลุกไหม้ในกุฎิได้ทัน จึงได้ไปเคาะเรียกพระในวัดรูปอื่น ๆ ให้มาช่วยดับไฟ แต่ไม่ทันการเนื่องจากตัวเรือนกุฎิเป็นไม้สักอย่างดีจึงทำให้ติดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยเปลวไฟยังลามไปติดฝาผนังซึ่งเป็นไม้สักของกุฎิเรือนที่ 7 ด้วย แต่สามารถช่วยกันสกัดไฟที่กำลังลุกลามได้ทัน ส่วนกุฎิตนเองไฟไหม้วอดทั้งหมด

พระธีรวุฒิ กล่าวอีกว่า หากเมื่อคืนนี้ตนไม่ลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกเสียก่อน คงถูกไฟคลอกเสียชีวิตในกุฎิแน่นอนเนื่องจากตนป่วยเรื้อรังทำให้ไม่สามารถลุกเดินได้สะดวก ส่วนทรัพย์สินที่ถูกไฟเผาไปหมด มีทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ทือถือ 2 เครื่อง ตู้เย็น ทีวี และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง โดยไม่สามารถขนหรือหยิบอะไรติดออกมาได้เลย เพราะไฟลุกไหม้รุนแรงมาก โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพระธีรวุฒิในที่เกิดเหตุพร้อมกับบันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดแล้ว โดยหลังจากนี้จะรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในกุฎิที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อสรุปสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป