เชียงราย-เผยนาทีโหด 9 คนรุมยิงสามีดับ เจ้าหน้าที่สงสัยว่าปมสังหารโหดจะเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดในอดีตที่เจ้าหน้าที่เคยตรวจยึดยาบ้าได้กว่า 7.9 ล้านเม็ดที่ผ่านมา
วันที่ 23 ส.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายกว่า 9 คน อาวุธปืนรุมกระหน่ำยิงนายสุพจน์ ปูลี อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 729 หมู่บ้านแสนใหม่ หมู่ 19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ขณะอยู่ที่หน้าบ้านญาติซึ่งเป็นผู้นำชุมชนจนเสียชีวิตคาหน้าบ้านท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมากอย่างอุกอาจนั้น ล่าสุดทาง พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล ผกก.สภ.แม่จัน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งออกหาข่าวเส้นทางหลบหนีของคนร้ายและสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้เห็นเหตุการณ์แล้ว เบื้องต้นพบว่านอกจากนายสุพจน์จะเสียชีวิตแล้วยังมีญาติถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 1 คน
ด้านการสืบสวนสอบสวนพบว่าที่เกิดเหตุได้มีผู้ทีเห็นเหตุการณ์พร้อมทั้งจำใบหน้าของคนร้ายได้หลายคนด้วยทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่าจะสรุปหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาล จ.เชียงราย ได้ต่อไปแล้ว ขณะที่ผู้นำชุมชนในหมู่บ้านแสนใหม่และชาวบ้านต่างขอให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งกำลังเข้าไปดูแลพื้นที่เนื่องจากเกรงอันตรายจะเกิดซ้ำอีก ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยทหารพรานร้อย ทพ.3108 ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง นำกำลังเข้าไปดูแลชาวบ้านตลอดทั้งวันแล้ว
ญาติของผู้เสียชีวิตระบุว่าก่อนเกิดเหตุพึ่งเดินทางจากตัวเมืองแม่จันโดยนายสุพจน์กำลังยกสิ่งของลงจากรถจักรยานยนต์เพื่อนำมาจำหน่าย แต่ปรากฎว่าคนร้ายได้เข้ามาใช้ปืนจ่อจะยิงทำให้นายสุพจน์ได้ขอร้องและพยายามถามว่าทำผิดสิ่งใดจึงต้องยิงด้วยแต่ปรากฎว่าแกนนำคนร้ายได้ยิงก่อนจากนั้นลูกน้องอีกหลายคนก็ใช้ปืนกระหน่ำยิงตามมาอีก ซึ่งตนสงสัยว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้นเพราะไม่ได้หนีและพยายามขอให้พูดคุยกันแล้วด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะทราบตัวผู้กระทำความผิดแล้วว่านำโดยนายวีระพงษ์ อายุ 26 ปี ชาว ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย จึงได้นำกำลังออกไปติดตามตรวจสอบที่บ้านพักของแต่ละคนแล้วแต่ไม่พบตัวแต่ละคน โดยแต่ละคนอาศัยอยู่ ต.ห้วยชมภู ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ฯลฯ และมีประวัติเคยเกี่ยวข้องกับการขนยาเสพติดผ่านหมู่บ้านที่เกิดเหตุดังกล่าวด้วยทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยว่าปมสังหารโหดจะเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดในอดีตที่เจ้าหน้าที่เคยตรวจยึดยาบ้าได้กว่า 7.9 ล้านเม็ด ที่ผ่านมาหรืออาจเกิดจากผู้ตายและชาวบ้านมีกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดจึงกระทบกับผลประโยชน์ของกลุ่มคนดังกล่าว.
