เชียงราย-สาวแรงงานไทยในเมียนมา ร้องขอกลับไทย หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมืองท่าขี้เหล็กระบาด อีกทั้งเกิดการล็อคดาวน์ร้านปิด แต่มีบางส่วนยังรอความหวังร้านเปิด เพราะมีต้นทุนข้ามไปมา
วันที่ 18 ก.ค.2564 จากสถานการณ์ในเมืองท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา ตรงกันข้ามชายแดน อ.แม่สาย มีรายงานมาว่า ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. มีการเปิดสถานบันเทิงอย่างคักคัก ได้ประมาณ 3 เดือน ปรากฎว่าพบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นรายวัน กระทั่งวันที่ 17 ก.ค. พบติดโควิด 40 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ก.ค.รวมแล้วจำนวน 563 ราย ส่งผลทำให้ทางการเมียนมา ออกประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 06.00-1800 น. มีการปิดตลาดและสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นการควบคุมโรค ที่ระบาดอย่างหนัก ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลท่าขี้เหล็กและโรงพยาบาลสนามใน จ.ท่าขี้เหล็ก และยังมีรายงานมาว่า ขาดแคลนทั้งแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ อย่างหนักไม่พอรับมือกับผู้ป่วย
ส่วนแรงงานหญิงสาวไทย ที่ลักลอบข้ามไปทำงานในสถานบันเทิงใน เมืองท่าขี้เหล็ก มีรายงานมาว่า แรงงานไทยในเมืองทางขี้เหล็กได้รวมตัวกันไปยื่นเรื่องผ่านสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาราว 20 คน โดยมี อาจารย์สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เป็นผู้ประสานหญิงแรงงานไทยในเมียนมา จำนวน 20 คน และล่าสุดเจ้าหน้าที่เมียนมา ได้ตรวจสอบพบมีผู้ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทยจำนวน 70 คน แต่ผู้แจ้งเรื่องผ่านช่องทางต่างๆ มีรายชื่อซ้ำกันทำให้คงเหลือรายชื่อที่แท้จริงจำนวน 71 คน
และยังพบว่าหญิงสาวไทยในเมืองท่าขี้เหล็ก มีบางส่วนยังยังไม่ขอกลับ ยังรอดูสถานการณ์ มีความหวังที่จะรอได้ทำงานอีก เพราะได้ลงทุนลักลอบข้ามไปแล้ว หรือบางส่วนอาจะะพยายามหลบหนีกลับมาทางช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากก่อนหน้าหลักลอบข้ามไปอย่างผิดกฎหมาย หวั่นจะมีประวัติ กับเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศ
