เชียงราย- ผบ.สูงสุดและคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย และแนวชายแดนไทย-เมียนมา เผย นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย รับรายงานแก้ไขการสกัดกั้นคนลอบเข้าเมืองได้ และนำคนไทยกลับประเทศผ่านช่องทางถูกกฎหมาย ทำให้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไม่มี ยืนยันสามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แล้ว
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 ธ.ค. พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย กับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในจังหวัดเชียงราย และตรวจเยี่ยมกองกำลังรักษาชายแดนไทย-เมียนมา ที่ช่องทางบ้านป่าสัก หมู่บ้านเวียงหอม ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งบริเวณเป็นสถานที่มักลอบข้ามไปมา โดย พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงศ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองพ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สายนายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สาย สาธารณสุขแม่สาย น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และ ปธ.หอการค้า อ.แม่สาย และทุกหน่วยงานรายงานข้อมูลในพื้นที่
พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยปัญหาการลักลอบข้ามแดนนำเชื้อโควิด-19 มาแพร่ระบาด และส่งผลกระทบต่อจังหวัดเชียงราย มากพอสมควร กำชับให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และทุกฝ่าย โดยเพื่อความมีประสิทธิภาพในแนวชายแดนจึงให้ แม่ทัพภาคที่ 3 อำนวยการดูแล และเพิ่มกำลังอีก 2 กองร้อย ซึ่งในพื้นที่บริเวณแนวนี้มีแนวพรมแดนยาวหลายร้อย ก.ม. เพื่อดูแลแนวพรมแดน และร่วมกับตำรวจในการตั้งจุดตรวจตามเส้นทางต่าง และร่วมกับท้องถิ่นคอยสอดส่องดูแลไม่ให้มีคนแปลกปลอมเข้ามา ซึ่งในส่วนของภาคสนามแนวชายแดนทางทหารทำงานเต็มที่ จึงยืนยันว่าเราได้มีการป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตนจึงเดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำใจกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งขอให้คนไทยที่ติดค้างในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา ให้ติดต่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น TBC และ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งทราบว่าข้ามกลับมาแล้วกว่า 330 คน ตรวจพบผู้ติดเชื้อ 55 คน (ติดจากคนที่ลอบเข้ามา 1 ราย) รักษาหายกลับบ้านแล้ว 20 คน และรักษาตัวอยู่ 35 ราย และยังมีคนไทยเหลือตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา อีกจำนวนไม่มาก โดยจะใช้เวลาอีกสักพักคงจะเข้าที่ทั้งหมด
