ทหารม้าเข้ม รับข่าวโควิดสายพันธุ์ใหม่ระบาดในเมียนมา

เชียงราย-กองกำลังผาเมือง และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ร่อนแถลงการณ์ด่วน รับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศเมียนมา ที่มีกำลังระบาดเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีศักยภาพในการแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าที่ระบาดก่อนหน้านี้ เพราะ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ยังคงมีแรงงานต่างด้าวที่พยายามจะลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย งัดมาตรการ 7 ข้อ เข้มงวดพรมแดน ติดตามข่าวใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.63 กองกำลังผาเมือง/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ถนนโชตนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ส่งถึงผู้สื่อข่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเมียนมาที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 21 สิหาคม 63 ที่ผ่านมาตรวจพบผู้ติดเชื้อฯ ในเมืองชิตตเว รัฐยะไข่ เกือบ 20 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในเมียนมาเพิ่มขึ้นเป็น 74 ราย ซึ่งเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีศักยภาพในการแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าที่ระบาดก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ยังคงมีแรงงานต่างด้าวที่พยายามจะลักลอบเข้ามา ตามช่องทางข้ามธรรมชาติ โดยไม่ผ่านกระบวนการกักตัว (SQ) ตามนโยบายของประเทศไทยดังนั้นกองกำลังผาเมือง จึงยังคงปฏิบัติการในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรการ 7 ด้าน ดังนี้
1. การประสานความร่วมมือไปยังประเทศเมียนมาผ่านคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น หรือ TBC ในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว
2. จัดการประชุม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานต้านความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อเพิ่มมาตรการในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว โดยเน้นให้ผู้นำชุมชน เข้ามามีส่วนร่วม
3. การจัดกำลังชุดปฏิบัติการข่าว เป็นหลักในการข่าวเชิงรุก ต่อกลุ่มขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน โดยมุ่งเน้นสืบสวน และจับกุมดำเนินคดีต่อผู้นำพา, ผู้สั่งการ และกลุ่มผู้ได้รับผลประโยชน์โดยตรง
4. การสกัดกั้นตามช่องทางตามแนวชายแดน โดยการเพิ่มเติมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการ เพื่อเพิ่มความถี่ ในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ พร้อมทั้งได้ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ตามช่องทาง/ท่าข้ามที่ล่อแหลม, การติดตั้งไฟส่องสว่างแบบโซล่าเซลล์ พร้อมกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่, จัดกำลังพลประจำช่องทางท่าข้าม ในการเฝ้าตรวจหมุนเวียน ตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนในเส้นทางหลักและเส้นทางรอง
5.จัดทำเครื่องกีดขวางโดยการติดตั้งรั้วลวดหนาม และปรับปรุงลวดหนามที่มีอยู่เดิม ให้มีความแข็งแรงทนทาน โดยเฉพาะในช่องทาง/ท่าข้ามที่ล่อแหลม และการตั้งจุดตรวจ/ จุดสกัด บนเส้นทางหลัก/เส้นทางรอง และจัดกำลังร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีจากบริเวณพื้นที่ตามแนวชายแดนเข้ามายังพื้นที่ตอนในของประเทศ
6. การปิดล้อมตรวจค้นแหล่งหลบซ่อน/พักพิง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตามแหล่งที่พักพิงชั่วคราวในบริเวณพื้นที่หมู่บ้านตามแนวชายแดน
7. การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ โดยการจัดชุดปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือน ลงพื้นที่เสริมสร้างการรับรู้ให้กับผู้นำชุมชน และประชาชนในหมู่บ้านตามแนวชายแดน ในการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทั้งการแจ้งเบาะแส และการกระจายข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องโดยห้วงตั้งแต่ 18 เมษายน 63 ที่ผ่านมา กองกำลังผาเมือง สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้า มาตามช่องทางท่าข้ามธรรมชาติ จำนวน 106 ครั้ง ผู้ต้องหา 332 ราย (เมียนมา 289 ราย, ลาว 33 ราย, จีน 21 ราย และเกาหลีเหนือ 7 ราย) ซึ่งหน่วยได้ร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศพรมแดนแม่สายในการคัดกรองก่อนที่จะผลักดันกลับประเทศต้นทาง ตามกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ทั้งนี้ กองกำลังผาเมือง จะยังคงเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องต่อไป