กรรมาธิการความมั่นคง รับเร่งแก้ไขปัญหาไร้สัญชาติ

เชียงราย-กรรมาธิการความมั่นคงสัญจร จัดประชุมเร่งโมเดลนำร่อง สำรวจแก้ไขปัญหาคนไร้สัญชาติ ซึ่งพบมีในระบบแล้วกว่า 7 แสนคนในไทย รวมถึงปัญหาเด็กติด G ซึ่งรัฐมีนโยบายชัดเจนว่าจะต้องเคลียร์ให้จบ หากพ่อแม่มีถิ่นที่อยู่ถาวรในไทย เด็กจะต้องได้เลขบัตรประชาชน 13 หลัก และช่วยผู้สูงอายุที่อยู่ในไทยมานานหลายสิบปี 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 สิงหาคม 2563 ได้มีการเปิดการประชุม “งานอนาคตและความมั่นคง ผู้ไร้รัฐไร้สัญชาติ กรรมาธิการความมั่นคงสัญจร ครั้งที่ 2 (รับฟังผู้ไร้รัฐไร้สัญชาติ) ปัญหาเด็กติด G-ปัญหาการให้สัญชาติผู้สูงอายุ- ปัญหาแรงงานต่างด้าว โดย กรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปประเทศโดยมี นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย เป็นประธาน ร่วมด้วย นายพีรเดช คําสมุทร ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล และโฆษกกรรมาธิการผู้แทนราษฎร,นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีต สมาชิกวุฒิสภา และประธานเครือข่ายสถานะบุคคล จ.เชียงราย,นายปรีชา อินทรชาธร จัดหางานจังหวัดเชียงราย,นายมานิตย์ ประกอบกิจ รองประธานวัฒนธรรม อ แม่สาย และประชาชนในพื้นที่ ทั้ง เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมอาคารเอนกประสงค์ อ.แม่สาย ราว 500 คนในที่ประชุมได้เปิดให้ประชาชนคนชายแดน ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ ไทยใหญ่,ไทยลื้อ,อาข่า,ลาหู่,ดาราอั้ง มาร่วมได้ซักถามปัญหา ซึ่งโดยมากก็จะถามถึงกรณี ที่ผู้สูงอายุจำนวนมาก ที่อยู่ในประเทศไทยมานานหลายสิบปี แต่ก็ยังถือบัตรต่างด้าว รอการช่วยเหลือให้ได้สัญชาติ และ เด็กนักศึกษาหลายคนก็บอกว่าถือบัตรหัวศูนย์ แต่อยากได้สัญชาติไทย หรือ การแต่งงานกับคนไทยจะมีการโอนสัญชาติได้หรือไม่ การที่ผู้ถือบัตรหัวศูนย์จะไปเป็นบุตรบุญธรรมคนไทย จะได้สัญชาติไทยหรือไม่ ในที่ประชุมตอบว่าทำได้ แต่ต้องทำตามระเบียบเงื่อนไขกฎระเบียบที่กำหนด และมีการแจ้งปัญหาการย้ายถิ่นฐานของผู้ปกครองบางชนเผ่า เช่น ดาราอั้ง ทำให้บุตรตกหล่นจากการสำรวจเป็นต้นนายพีรเดช คําสมุทร ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล และโฆษกกรรมาธิการผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตอนนี้จะใช้อำเภอแม่สาย จ.เชียงราย เป็นโมเดลในการช่วยพี่น้องในการแก้ปัญหาการไร้สัญชาติ ถือเป็นความมั่นคงแห่งรัฐ ทั้งเรื่องแรงงานและ ผู้ที่ไร้สัญชาติในไทยจำนวนมาก เพราะในประเทศไทย มีปัญหาในอยู่ระบบแล้วกว่า 7 แสนคน นอกระบบอีกเป็นล้านคนซึ่งมีผู้ไร้สัญชาติใน อ.แม่สาย มีราว 20,000 คน และเด็กหัว G และไม่รวมผู้สูงอายุ ที่อยู่ในไทยหลายสิบปีแต่ยังไม่ได้รับสิทธิ และนักเรียนนักศึกษาที่ยังเรียนอยู่ แต่ยังไม่ได้สัญชาติแม้จะเกิดในประเทศไทย การแก้ไขปัญหาของราชการแต่ละปี ทั้งประเทศแก้สิทธิทำได้ราว 13,000 คน ถือว่าน้อย สาเหตุมาจากงบประมาณไม่พอ ตนจึงจะหาทางส่งเสริมงบประมาณเพื่อเจ้าหน้าที่ทำงานได้มากขึ้นและช่วงนี้ จังหวัดเชียงรายประสบอุทกภัย ตนในฐานะอนุกรรมาธิการงบประมาณน้ำ และโยธาธิการ ได้มีการแจ้งไปยังกรรมาธิการแล้วว่าให้เร่งจัดงบประมาณลงมาช่วยโดยด่วนนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีต สมาชิกวุฒิสภา และประธานเครือข่ายสถานะบุคคล จ.เชียงราย กล่าวว่า ปัญหาเด็กติดเลขประจำตัว G ทางกระทรวงศึกษาธิการกับกระทรวงมาหาดไทยมีความชัดเจนว่าให้เคลียร์ปัญหานี้ให้หมด เด็กติด G ที่พ่อแม่อยู่ในไทยจริง ตรวจสอบแล้วก็จะได้เลขประจำตัว 13 หลักของไทย และให้ได้สิทธิในหลักประกันสุขภาพของไทย มีการแก้ไขไป 3,000 กว่าราย ถือว่าประสบความสำเร็จ

แต่กลุ่มที่มีปัญหามาก คือกลุ่มแปลงสัญชาติ คือ กลุ่มที่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย แต่อยู่ประเทศไทยมานาน บางคนถือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและใบถิ่นที่อยู่ 30-40 ปี ซึ่ง มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา และตนในฐานะประธานเครือข่ายสถานะบุคคล จ.เชียงราย จะได้หารือ อธิบดีกรมการปกครองในวันที่ 17 ส.ค.63 นี้ เพราะการแปลงสัญชาติเป็นปัญหาที่ยืดยาวมาก บางคนยื่นเรื่องไปเป็นสิบปี ก็ไม่มีความคืบหน้า ถึงแม้ รมว.มหาดไทย จะลดเกณฑ์ 4 ข้อในคนสูงอายุเกิน 60 ปี แต่ในทางปฏิบัติจะต้องทำได้จริง

ขณะนี้ นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้สั่งการให้สำนักทะเบียน ลงพื้นที่ตรวจสอบนักเรียนหัว G มีราว 1,899 ราย และพบยอดนักเรียนบัตรหัว G เข้าคุณสมบัติจะได้บัตรหัวศูนย์ 1,116 ราย แต่จากการตรวจสอบคัดกรอง อาจจะเข้าเกณฑ์ราวครึ่งหนึ่งซึ่งจะทำให้เสร็จก่อนวันที่ 18 ก.ย.63 นี้ และหากมีหลักฐานการเกิดในไทย จะขอสัญชาติไทย ตามมาตรา 7 ทวิ ได้