พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท , พล.ต.ต. อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท. 3 ,พ.อ.มนตรี ธนาวรรณโอกภาส เสธ กกล.รส.จว.กจ. (มทบ.17), พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ รอง ผบก.ภจว.กจ.,พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภจว.กจ., พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง , พ.ต.ท สืบศักดิ์ ผับสืบ สว.ทท.1 บก.ทท.3, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้ หลบหนีคดีฉ้อโกง มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท บริเวณสภ.ท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2561 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้รับการประสานงานจาก สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยและกองการต่างประเทศ (ตท.) ว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับของประเทศเกาหลีใต้(หมายจับตำรวจสากลINTERPOL) ในข้อหา “ฉ้อโกง” รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท (เมื่อปี พ.ศ.2548) หลบหนีเข้ามาอาศัยอยู่ประเทศไทยจากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองนี้ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ภายในโรงแรมกาญจนบุรี (คาวบอย) เลขที่ 59 /18 หมู่ 1 ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรีจึงได้วางแผนเข้าทำการตรวจสอบโดยได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 405/ 2561 ลงวันที่ 5 พ.ค. 2561 เข้าทำการตรวจค้นเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2561 เวลาประมาณ 07.30 น.ผลการตรวจค้นพบผู้ต้องหาทั้งสองคนหลบซ่อนอยู่ในตัวโรงแรมดังกล่าวจึงได้ทำการจับกุมดังนี้
1 นายบิยอง แท เจิน (Mr.Byung Tae Jeon) หรือนายแสง จันทร์นวลอายุ 54 ปี หนังสือเดินทางเลขที่JB-0666132 โดยกล่าวหาว่าเป็นบุคคลต่างด้าวที่หลบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยและพำนักอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาติและร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 664/2558 ลงวันที่ 16 ก.ย. 2558 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2558 เวลา 08.30 น.ที่ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
2 นางควาง ชุก ชิน (Miss Kyung Sook Sin) อายุ 54 ปีหนังสือเดินทางเลขที่ JB-0666130 โดยกล่าวหาว่าเป็นบุคคลต่างด้าวที่หลบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยและพำนักอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
3 นายอเนกทัศน์ หรือเอก แก้วสีรัง อายุ 43 ปีบ้านเลขที่ 182/17 หมู่ 10 ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี บัตรประชาชนเลขที่ 7199-00118-65-9
โดยกล่าวหาว่าให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยการประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวพ้นการจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ. ท่าม่วงดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 เป็นบุคคลตามหมายจับของประเทศเกาหลีใต้จริงข้อหาฉ้อโกงมูลค่าความเสียหาย 115,195,588 บาท เหตุเกิดเมื่อปี พ.ศ.2548 มีผู้เสียหายเป็นคนสัญชาติเกาหลีใต้จำนวน 6 คนซึ่งทางการประเทศเกาหลีใต้มีความต้องการตัวไปดำเนินคดี รวมทั้งได้ประสานตำรวจสากล ออกหมายจับ(หมายแดง)ไว้เรียบร้อยแล้วโดยผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2548 รวมเวลา 13 ปีและเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2561 ได้มีกลุ่มผู้เสียหายชาวเกาหลีใต้จำนวน 4 คนจากจำนวนทั้งหมด 15 คนได้เดินทางจากประเทศเกาหลีใต้ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ. ท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรีในข้อหาฉ้อโกงมูลค่าความเสียหายประมาณ 100,000,000 (หนึ่งร้อยล้านบาท)
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อประมาณปลายปี 2559 ผู้ต้องหาทั้งสองได้ร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้ผู้เสียหายทั้ง 15 คนมาร่วมลงทุนก่อสร้างโรงแรมกาญจนบุรี(คาวบอย) อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรีโดยอ้างว่าจะมาลงทุนสร้างเป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับชาวเกาหลีใต้โดยเฉพาะ(Korean Town)ผู้ต้องหาได้นำโบชัวร์ นำเสนอโครงการว่าจะก่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวครบวงจรมีทั้งโรงแรม คาสิโน สถานบันเทิง ร้านค้าต่างๆในพื้นที่บริเวณโครงการและได้พาผู้เสียหายมาดูและพักในโครงการดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายทั้งหมดหลงเชื่อและร่วมลงทุนโดยได้โอนเงินให้แก่ผู้ต้องหาทั้งสองรวมเป็นเงินจำนวน100,000,000 (หนึ่งร้อยล้านบาท) ต่อมาเมื่อต้นเดือน ก.พ. 2561 ผู้ต้องหาในแจ้งให้ผู้เสียหายซื้อที่ดินข้างโรงแรมเพิ่มเติมอีก 20 ล้านบาท จึงเกิดความสงสัยที่ผู้ต้องหาขอผัดผ่อนเรื่อยมาว่าจะเปิดกิจการถึง 3 ครั้ง (มิ.ย.60 ก.ย.60 ธ.ค.60)
จึงทวงถาม กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวและการเปิดกิจการโรงแรม ผู้ต้องหาได้ข่มขู่ห้ามผู้เสียหายเดินทางภายในประเทศไทย โดยอ้างว่ามีหมายจับผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบปรากฏว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงเชื่อแน่ว่าถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน จึงได้พากันเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ. ท่าม่วงเพื่อแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป
