ที่ศาลาประชาคมกลุ่มประมงเรือเล็กบ้านพลา-อู่ตะเภาสามัคคี หมู่ที่ 5 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นายวิเชษฐ์ หมายมั่น อายุ 60 ปี ประธานกลุ่มประมงพร้อมด้วย นายสมทรง แถวโชติ กำนัน ตำบลพลา นายสุฒัน์ พันธุ์พิริยะ อายุ 57 ปีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.พลา และชาวประมงเรือเล็ก เปิดเผยว่าเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ผ่านมา ตนเองได้รับแจ้งจากชาวประมงท่านหนึ่งว่าพบเต่าขึ้นมาเกยหาดช่วงหน้าโรงเรียนวัดพลา จากนั้นตนและ กำนัน พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านจึงไปตรวจสอบพบเต่ากะเพศผู้ 1ตัว มีขนาด 80 เซนติเมตร หนักประมาณ 50-60 กิโลกรัม อายุประมาณ 15 ปี มีลักษณะบาดเจ็บจึงถูกกระแสน้ำพัดมาขึ้นฝังตนจึงนำมาที่ทำการกลุ่มประมงเรือเล็กเพื่อนำมาให้การช่วยเหลือในบ่ออนุบาลที่มีทั้งออกซิเจนสำหรับอนุบาลสัตว์ทะเล ในระหว่างรอเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯสุดท้ายเต่าได้ตายลงคาดว่าบาดเจ็บเพราะช่วงนี้ท้องทะเลแถบภาคตะวันออกมีลักษณะคลื่นลมแรงจากลมมรสมตามกรมอุตุนิยมที่พยากรณ์อากาศ สภาพ อากาศไว้ร่วงหน้า คงเป็นสาเหตุของการตายได้ จากนั้นจึงแจ้งไปยัง ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพย์กรทางทะเลและชายอ่าวไทย เพื่อนำไปพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริง
นอกจากนี้นายวิเชษฐ์ ประธานกลุ่มยังเผยอีกว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านก็มีชาวบ้านพบซากเต่าเกยหายตายมาแล้ว 1 ตัว มีขนาดเกือบ 90 กิโลกรัม มาแล้วแต่ยังไม่ตายต่อมาศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพย์กรทางทะเลและชายอ่าวไทยได้มานำไปพักพื้นที่ศูนย์แล้วทราบต่อมาว่าเต่าตัวนั้นได้ตายลงพบในท้องมีถุงพลาดสติกอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ้งอาจเป็นสาเหตุการตายได้ ส่วนตัวนี้เป็นตัวที่ 2 แล้ว คาดว่าจะบาดเจ็บเพราะตรวจสอบเบื้องต้นตามตัวพบว่ามีรอยช้ำทั่วตัวคาดเกิด จากถูกกระแสน้ำพัดไปกระทบโขดหิน หรืออย่างหนึ่งยังใดไม่แน่ชัดต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบต่อไป
ส่วนตนและชาวประมงบ้านพลา-อู่ตะเภา สามัคคีรู้สึกเสียดาย ทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีอยู่ในท้องทะเลโดยเฉพาะอ่าวบ้านพลาแห่งนี้ซึ่งกลุ่มฯจะค่อยเพาะเลี้ยงเต่าแล้ว เชิญชวนชาวบ้าน นักอนุรักษ์ร่วมกันปล่อยเต่าลงทะเลบ่อยครั้ง และอยากฝากบอกนักท่องเที่ยว หรือชาวบ้านช่วยกันดูแลทรัพยากรทางทะเลโดยเฉพาะขยะนั่นเป็นสาเหตุใหญ่ทำให้สัตว์ทะเลตายบ่อยครั้งอีกด้วย
