“อนุทิน” เปิดงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์

เชียงราย-“อนุทิน” เปิดงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ และมอบนโยบายการดำเนินงานกัญชาทางการแพทย์ จ.เชียงราย

วันที่ 20 ส.ค. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 1 และมอบนโยบายการดำเนินงานกัญชาทางการแพทย์ โดยมีนายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชน เข้าร่วมประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ในครั้งนี้ ณ หอประชุมอาคารคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

สำหรับนโยบายกัญชาทางการแพทย์ เป็นนโยบายที่กำหนดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ป่วย ที่ต้องใช้ยาที่มีส่วนผสมของกัญชาไม่ต้องซื้อยาราคาแพง หรือกังวลในด้านการละเมิดกฎหมาย ในการใช้ยาเพื่อรักษาตัว กัญชาเป็นหนึ่งในพืชไม่กี่ชนิดที่ใช้ประโยชน์นำมาเป็นยาและอาหารได้ทุกส่วน ทั้งราก ต้น ใบ และดอก ที่คนไทยใช้กันมานาน แต่กลับถูกจัด เป็นยาเสพติดให้โทษ ซึ่งคนไทยมีภูมิปัญญาในการนำกัญชามาใช้รักษาโรคตั้งแต่สมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช การนำพืชซึ่งปลูกได้ดีในภูมิอากาศของประเทศไทย มาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ การลดภาระค่ายานอนหลับ หรือยาที่ช่วยให้ เจริญอาหารซึ่งมีราคาแพงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และเพิ่มการส่งออกยา ของไทย การดำเนินงานกัญชาทางการแพทย์ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า กัญชา เป็นพืชเศรษฐกิจที่นอกจากจะนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แล้วยังนำไปทำ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ และสามารถพลิกโฉมให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ในภาพรวมของประเทศ เห็นได้จากผลงานในปี 2564 แม้ว่าจะมีสถานการณ์ โควิด 19 ผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง ยังเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศอย่างมาก พบว่า ผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชง สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เป็นมูลค่าสูงกว่า 7 พันล้านบาท

โดยวันที่ 9 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา กัญชา กัญชง ถูกปลดล็อคจากการเป็น ยาเสพติด และระหว่างที่รอสภาพิจารณาร่างกฎหมายกัญชา กัญชง มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. 2565 ในการควบคุมการใช้กัญชา ผิดวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้และยังควบคุมสารสกัดที่มี THC มากกว่า 0.2 % ของน้ำหนัก ที่ยังเป็นยาเสพติด ซึ่งในวันนี้ เมื่อกัญชา กัญชงไม่เป็นเสพติดแล้ว จึงเป็นโอกาสดี ของประชาชนที่มีความประสงค์จะปลูกกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จะสามารถจดแจ้งการปลูกผ่านแอพพลิเคชั่น “ปลูกกัญ” ซึ่งจัดทำโดยสำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา เพื่ออำนวยความสะดวกในการจดแจ้งให้แก่ ประชาชน

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การจัดประชุม มีเป้าหมายหลัก คือ การสร้างความรู้ ความเช้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน ตั้งแต่การปลูก การนำส่วนต่างๆ มาใช้ประโยชน์ เพื่อการรักษา ตลอดจนการแปรรูปในผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือแม้กระทั่งการต่อยอด ในเชิงธุรกิจให้แก่ ประชาชน ผู้ประกอบการ และบุคลากรทางการแพทย์ สามารถ ใช้กัญชาได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และต่อยอดทางธุรกิจได้อย่างคุ้มค่า และเน้นย้ำว่า ให้ประชาชน ผู้ประกอบการ และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ได้ใช้ประโยชน์ในทางที่ถูกต้อง และช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้ลูกหลาน คนใกล้ชิด และเพื่อนร่วมสังคมนำไปใช้ในทางที่ผิดอีกด้วย