เติมน้ำใจ ใส่ตู้แบ่งปันเริ่มทยอยมีมากขึ้น แต่เพียงชั่วพริบตาไม่กี่อึดใจก็หมดลงแล้ว

ฉะเชิงเทรา – เติมน้ำใจ ใส่ตู้แบ่งปันเริ่มทยอยมีคนใจบุญนำสิ่งของมาวางทิ้งไว้ให้เพิ่มถี่ขึ้นแล้ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ที่กำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่เกิดขึ้นซ้ำซากในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา อย่างยาวนาน แต่เมื่อสิ่งของถูกนำมาวางไว้ชั่วพริบตาหรือเพียงไม่กี่อึดใจได้หมดลงไปอย่างรวดเร็ว เชื่อยังมีความหิวโหยที่รอคอยการช่วยเหลืออีกมาก

วันที่ 23 พ.ค.64 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณด้านหน้า รพ.พุทธโสธร ริมถนนมรุพงษ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งยังคงมีตู้ปันสุขวางเหลือทิ้งไว้จากเมื่อครั้งการเกิดโรคโควิด 19 ระบาดในครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มี.ค.63 อยู่จำนวน 1 ตู้จนถึงปัจจุบันนี้ ได้เริ่มมีผู้ใจบุญได้นำเอาสิ่งของมาวางเสริมทิ้งเอาไว้ให้บนตู้สะพานบุญใบนี้ของหลวงพี่ต้น แห่งวัดโพธิ์บางคล้า ผู้เป็นเจ้าของตู้ใบนี้เพิ่มมากขึ้น

หลังจากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ภายในตู้ไม่มีสิ่งของใดๆ ถูกนำมาวางมากนัก เนื่องจากกระแสความตื่นตัวในลักษณะแฟชั่นสายบุญชั่วคราว ที่ได้มีการนำตู้มาวางในลักษณะนี้ไปจนเกลื่อนทั่วประเทศได้หมดไป หลังการระบาดของโรคในครั้งแรกนั้น แต่ตู้ใบนี้ยังคงอยู่และถูกวางทิ้งเอาไว้แบบถาวรยาวนานข้ามเวลามาเป็นปี และมีหลายช่วงเวลานั้นได้กลับกลายไปเป็นตู้ร้าง ที่มีแต่ความว่างเปล่าคล้ายกลับถูกวางลืมทิ้งเอาไว้

แม้ทางพระสงฆ์ผู้เป็นเจ้าของตู้ใบนี้ จะได้พยายามนำเอาสิ่งของที่ได้รับมาจากการถวายพระ เพื่อทำบุญของญาติโยม มาวางใส่ไว้ให้อยู่เป็นระยะก็ตาม แต่สิ่งของมักจะหมดลงไปอย่างรวดเร็วในทันที และกลับไปอยู่ในสภาพของตู้ร้างตามเดิม ซึ่งล่าสุดในวันนี้ เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เริ่มเห็นผู้มีน้ำใจ หรือผู้ใจบุญจำนวนหลายราย ได้ขับรถยนต์เก๋ง และบางรายขับรถยนต์กระบะ นำเอาสิ่งของมาตั้งวางใส่ไว้ให้ยังภายในตู้อย่างต่อเนื่อง

แต่สิ่งของที่เพิ่งถูกนำมาวางใส่ไว้เพียงไม่นาน ได้หมดลงไปอย่างรวดเร็วในชั่วพริบตา คล้ายกลับในทุกๆ ครั้ง ที่มีคนใจบุญนำเอามาวางไว้ แม้จะมีผู้คนเริ่มหันมาทำบุญในลักษณะเป็นทานบารมีเพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังไม่ทันต่อความต้องการของผู้คน ที่อาจจะกำลังได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากการระบาดของโรคที่ยังคงเกิดขึ้นแบบซ้ำซากอยู่ในขณะนี้

โดยที่ล่าสุดในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 29 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นคลัสเตอร์ในเรือนจำที่มีมากถึง 21 ราย ผู้ป่วยภายนอก 8 ราย จึงทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงถึง 881 ราย จากการระบาดระลอกแรก 21 รายระลอกสอง 28 ราย และระลอกสาม 832 ราย มีผู้เสียชีวิต 7 ราย จากระลอกแรก 1 รายและระลอกสาม 6 ราย

–ปูดกรุโควิดแปดริ้วแตก ทะลักจากคนงานหาสมัครงานใหม่ถูกตรวจพบเชื้อ

–โควิดแปดริ้วแตก ทะลักครั้งใหญ่เหตุจากคนงานหาสมัครงานใหม่ถูกตรวจพบเชื้อ