เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 12 ม.ค.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แจ้ห่มลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยแจ้ห่ม โรงพยาบาลแจ้ห่ม งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.แจ้ห่ม เดินทางตรวจสอบถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม ระหว่าง กม.49-50 ปากทางเข้าวัดกู่เต้าวนาราม บ้านสวนดอกคำ ต.วิเชตนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง หลังรับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินตำรวจภูธรจังหวัดลำปางว่าเกิดอุบัติ เหตุ รถกระบะชนกับบรรทุกสิบล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ติดอยู่ภายในรถ
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุพบรถกระบะ อยู่กลางถนน สภาพด้านหน้ารถกระบะพังยุบเกือบครึ่งคันภายในห้องโดยสารพบคนขับเป็นผู้ชายถูกอัดก๊อปปี้ติดอยู่ภายในรถ เบื้องต้นพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นอายุผู้ชาย ประมาณ 45 ปี ถูกคอลโซลรถอัดหนีบร่างไว้ ที่บริเวณข้อแขนซ้ายกระดูกหักโผล่แทงออกมาติดกับเฟรมคอลโซล เบื้องต้นคนเจ็บมีสติ รู้สึกตัวดี ทีมพยาบาลโรงพยาบาลแจ้ห่ม ให้การดูแลเบื้องต้น ก่อนทีมกู้ภัยแจ้ห่มและ จนท.งานป้องกัน อบต.แจ้ห่ม ประสานขอสนับสนุนอุปกรณ์ตัดถ่างจากทีมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาล ต.บ้านสา และทีมดับเพลิง อบต.วิเชตนคร เข้ามาเตรียมพร้อม ณ จุดเกิดเหตุ เนื่องจากมีน้ำมันรั่วเต็มพื้นถนน และทำการประสานขอสนับสนุน หมวดการทางแจ้ห่ม นำผงดูดซับน้ำมันมาโรยบนถนนที่มีน้ำมันรั่ว ป้องกันการลื่นของรถที่สัญจรผ่านไปมา ส่วนคนขับบรรทุกสิบล้อไม่ได้รับบาดเจ็บรอให้การอยู่ที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
- พม.จ.กาฬสินธุ์เสริมพลังสตรีและเด็กหญิง ขจัดความยากจน สู่ความเท่าเทียมระหว่างเพศ
- แฉภาพชัดริมตลิ่งแม่น้ำชี้ “รับเหมาขาใหญ่” เมินก่อสร้าง เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงใครทุจริตจะพบอาถรรพ์เงินแผ่นดิน
- ลุงเก็บของเก่าปั่นจักรยานจะกลับบ้าน ถูกสาวขี่มอเตอร์ไซค์ชนท้ายเจ็บทั้งคู่
- หญิงวัย 43 ปี น้อยใจผัวเดินหลงหายไป 2 วัน พบนอนหมดสติกลางทุ่ง เร่งส่งรักษาด่วน ล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว
จากนั้นทีมกู้ภัยได้ระดมกำลังใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากซากรถสำเร็จซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสามารถก่อนจะนำตัวส่ง รพ.แจ้ห่ม และส่งตัวไปทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง สอบสวนทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้ห่มอำเภอแจ้ห่ม ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถกระบะคันประสบเหตุกลับบ้านพอมาถึงที่เกิดเหตุเสียหลักข้ามเลนชนประสานงากับรถสิบล้อบรรทุกปุ๋ยขับสวนทางมาเต็มแรงทำให้ถูกอัดก๊อปปี้อยู่ในรถโชคดีแค่บาดเจ็บแต่รถพังยับเยิน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: