อปท.ชายแดนตาก ดาหน้าอัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากล้มเหลว เพราะกฏหมายล้าหลัง เดินไปข้างหน้าไม่ได้
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2562 ทีห้องประชุมเพชรน้ำหนึ่ง เทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก นายประยูร รัตนเสนีย์ ประธานคณะกรรมการร่างกฏหมายกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานในการประชุม ชี้แจง และให้ความรู้ พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรค์ต่างๆ แก่ผู้บริหารท้องถิ่น อาทิ นายกเทศมนตรี นายกอบต. และปลัด ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ทั้งหมด กว่า 100 คน โดยมีนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าวต้อนรับ และมีการเปิดโอกาสผู้นำท้องถิ่นได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ซึ่งผู้นำท้องถิ่น ได้แสดงความเห็นถึงความล้มเหลวของการพัฒนาท้องถิ่นในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ซึ่งมีพื้นที่ 14 ตำบล ในเขต อ.แม่สอด อ.พบพระ และอ.แม่ระมาด ทั้งนี้อันเนื่องมาจากระเบียบกฏหมายที่ล้าหลัง ทำให้ดำเนินการอะไรในท้องถิ่นไม่ได้ จนติดขัดไปหมด รวมไปถึงเรื่องปัญหาที่ดินด้วย
นายบุญธรรม เกิดสันเทียะ นายอบต.พบพระ กล่าวว่า ตนเองเองอยู่พื้นที่ชายแดน และปัญหาที่อยู่ด้านหน้า คือ ปัญหาของประชาชน กับ อบต.พบพระ แต่คนออกกฏหมายอยู่ที่อื่น มีระเบียบกฏหมายหลายเรืองที่ดีๆก็มี แต่ก็มีอีกหลายเรื่องยังมีปัญหา ขนาดเจ้าหน้าที่ปลัด หัวหน้าส่วนการงานเป็นข้าราชการ ก็ไม่กล้าเสี่ยงตัดสนใจทำอะไร ฉะนั้นระเบียบต่างๆที่ออกมา ทำให้เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ที่ตั้งขึ้นมาโดยรัฐบาลเดินหน้าต่อไปไม่ได้ เมื่อรัฐบาลต้องการพัฒนาพื้นที่ชายแดนแล้ว แต่ไม่วางขอบเขตให้ชัดเจน เช่น ต้องการดำเนินการก่อสร้าง ต้องรอวิศวกรมาเซ็นแบบ และทั้งจังหวัดตาก มีวิศวกรไม่กี่คน ขณะที่อบต. 50 แห่ง ต้องไปรอให้วิศวะกรเซ็นแบบ
นายบุญธรรมกล่าวว่า ที่ดินตำบลพบพระ มีพื้นที่ กว่า 60,000 ไร่ เป็นป่าสงวน เป็นพื้นที่ สปก. แต่เป็นนส.3 ไม่ถึง 1,000 ไร่ เมื่อขอ งบประมาณทำโครงการต้องได้รับการขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ทำให้ทำอะไรไม่ได้ ล่าสุดได้รับโอนโรงเรียนจาก โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน มาให้อบต.พบพระ แต่ติดปัญหาที่ดินอีก ทั้งที่เป็นพื้นที่ ที่ถูกกันออกจากป่าสงวน และสปก.แล้ว แต่เมื่ออบต.ไปขอเอกสารสิทธิ ก็ไม่ได้ ต้องให้ธนารักษ์ออกให้ เพราะธนารักษ์เป็นเจ้าของที่ดินของรัฐ ทั้งที่อบต.ชี้แจงไป ว่า อบต.ได้รับโอนมาจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และได้เป็นเจ้าของที่ดูแลบริหารโรงเรียนแล้ว ก็ตาม ทำให้ตัดสินใจยกเลิกการนำงบประมาณ 9 ล้านบาทไปพัฒนาโรงเรียน
นายบุญธรรม กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.ตาก มีอบต. กว่า 50 แห่ง บางอบต.เป็นพื้นที่ป่าสงวนทั้งหมด บางอบต.เป็นทั้งป่าสงวน ป่าอุทยาน และ พื้นที่ นสร. ทำให้หลายแห่งต้องถอดใจในการของบประมาณ การแก้ปัญหาทุกวันนี้ ต้องใช้เงินสะสมของอบต.แก้ปัญหาประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน หากไปพบปัญหาพื้นที่ ที่เป็นป่าสงวน ป่าสปก.ก็ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ นอกจากนี้ปัญหาขยะ ที่เป็นวาระแห่งชาติ ท้องถิ่นเคยขอใช้พื้นที่ตั้งแต่การปฏิวัติ ที่ผ่านมาแล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ ทั้งที่ปัญหาขยะเป็นวาระแห่งชาติ
ด้านนายเทอดเกียรติ์ กล่าวว่า เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก โดยเฉพาะแม่สอดเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะพิเศษมีความสำคัญ เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าชายแดน ตั้งอยู่บนระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก – ตะวันตก (EWEC) เป็นครัวของประเทศ ที่ผ่านมามีความเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ มีมูลค่าการส่งออกสูงกว่า ปีละ 80,000 ล้านบาท แต่ติดปัญหากฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันไม่เอื้อต่อการพัฒนาในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ขสดการวางแผนการบริหารพื้นที่แบบองค์รวม การพัฒนาด้านต่างๆ จึงแยกส่วนกระจัดกระจาย และที่ผ่านมา เทศบาลบนครแม่สอด ได้มีการประชุมหารือร่วมกันของภาคเอกชนจังหวัดตาก ( หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ผู้แทนชมรมธนาคาร ผู้ประกอบการขนส่ง ) มีมติร่วมกันเห็นควรนำพระราชบัญญัติเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 มาใช้ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก โดยเตรียมเสนอเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาต่อไป
