คนร้ายชาวเมียนมากระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาทของพนักงานบริษัทฯ แต่พนักงานใจเด็ดยื้อแย่งคืนจนสร้อยหล่นกับพื้น และหนีไป กล้อง SOS แจ้งตร.ตามจับทันควัน
เมื่อเวลา18.00 น .วันที่ 2 พฤษภาคม 2565 พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีที่ใช้กล้องวงจรปิดติดบนเสา SOS ว่ามีคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำบ้านด้านหน้าบริษัท ป๋าเชิญ ซึ่งเป็นบริษัทรับทำหนังสือเดินทาง วีซ่า และบัตรอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว โดยคนร้าย เป็นชาย 1 คน กำลังปั่นจักรยานออกมาจากจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปทางไปตลาดสดศรีมอย เขตเทศบาลนครแม่สอด ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ประยุทธ แพปรุ รอง ผกก.ป.สภ.แม่สอด พ.ต.ท.วัฒนะ คงตาล สวป.สภ.แม่สอด ร.ต.อ.สุรชัย แก้วประเสริฐ รอง.สวป.สภ.แม่สอด นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเข้าไปตรวจสอบเส้นทางหลบหนีตามที่พลเมืองดีแจ้งมา และพบนายหน่าย อายุ 38 ปี ไม่มีนามสกุลสัญชาติเมียนมา กำลังปั่นจักรยานหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นชายดังกล่าวจึงเข้าจับกุมตามรูปพรรณที่ในภาพกล้องวงจรปิดติดบนเสา SOS บันทึกไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวนที่สภ.แม่สอด พร้อมกับนำเจ้าทุกข์ไปชี้ตัวด้วย
จากการสอบถามนางหม่ออายุ 44 ปี ผู้เสียหาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายหน่ายขับขี่จักรยานผ่านมาบริเวณหน้าบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่ด้วยท่าทางที่มีพิรุธ โดยแกล้งไปสอบถามว่าเอกสารประจำตัวของตนดำเนินการ หรือบัตรอนุญาตทำงานเสร็จหรือยัง แต่เป็นจังหวะที่ช่วงนั้นไม่มีคนอยู่หน้าบริษัท จึงฉวยโอกาสกระชากสร้อยทองคำน้ำหนัก 3 บาทจากคอ แต่ตนได้ทำการแย่งคืนจนสร้อยกระเด็นตก เมื่อนายหน่ายเห็นคนเริ่มมา จึงรีบปั่นจักรยานหลบหนี ตนจึงวิ่งออกมาติดตามคนร้าย และขอความช่วยเหลือจากพลดีช่วยกดปุ่มแจ้งเหตุผ่านเสา SOS ตามโครงการ“ Maesot Smarty Safety Zone 4.0 “โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้จนกระทั้งเจ้าหน้าที่นำสู่การจับคนร้ายได้ในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหานายหน่ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
