ผู้สูงอายุบ้านวังตะเคียนขับกระบะจะไปทำบุญวัดระหว่างมีรถยนต์บรรทุกจากประเทศพม่าตัดหน้ารถอย่างกระทันพุ่งชน ตายคาที่ 1 คน เจ็บ 6 คน
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ร.ต.อ.ภัทรเดช ฉายแวว รอง.สว.(สอบสวน) สภ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งมีเหตุรถยนต์กระบะชนกับรถยนต์บรรทุก 6 ล้อจากประเทศเมียนมา และมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายคน บริเวณถนนสายเฉลิมเทพ ทางหลวงชนบท ตก.3050 หมู่ที่1 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก จึงประสานหน่วยกู้ภัย พร้อมนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตอนเดียว ยี่นีสสันสีน้ำเงิน ทะเบียน บค.7329 ตาก ได้รับความเสียหายด้านหน้า และหลังรถยนต์ ใกล้กันพบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อบรรทุกสินค้าหมายเลขทะเบียน MDY 4N-4030 จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด และบริเวณกลางถนนพบศพผู้เสียชีวิต 1 คน ชื่อนางแก้ว จันดี อายุ 53 ปี พร้อมกับมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน ในจำนวนนี้ มีเด็ก 1 คน เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลแม่สอด ขณะเดียวกันนายมิวโก่ อายุ 28 ปี สัญชาติเมียนมาไม่มีนามสกุลสัญชาติเมียนมาเป็นคนขับรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ กำลังยืนรอให้การกับเจ้าหน้าทีตำรวจ
จากการสอบสวนทราบว่า รถยนต์ทั้ง 2 คัน ได้มาจากบ้านวังตะเคียน ตามกันมา แต่พบถึงทางแยกถนนตัดใหม่ ทางรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ได้ตัดหน้ารถยนต์กระบะ จนทำให้เสียหลักพุ่งไปชนเสาไฟฟ้า ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งกระบะท้ายรถยนต์มาทั้งหมด 7 คน กระเด็นออกไป 6 คน จนได้บาดเจ็บ และเสียชีวิต
นางเขียวคำ ติ๊บปะละ อายุ 64 ปี เป็นผู้โดยสารที่นั่งกระบะท้ายรถยนต์ โดยสามารถเกาะรถไว้ได้ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุนายชลธิค์ คำหอม อายุ 60 ปี ได้ขับรถยนต์กระบะบรรทุกคนโดยสารทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ และส่วนใหญ่มากเป็นผู้สูงอายุทั้งหมด 7 คน ขับออกมาจากบ้านวังตะเคียนจะไปทำบุญวัดบ้านน้ำดิบ ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด แต่ระหว่างเกิดเหตุตนนั่งมองไปข้างหลังรถไม่เห็นจุดเกิดเหตุ และเกิดขึ้นได้อย่างไร พอเกิดเหตุได้เกาะเหล็กไว้แน่น จนปลอดภัย
อย่างไรก็ดี มีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนระบุชัดว่า รถยนต์บรรทุก 6 ล้อของชาวเมียนมาขับรถเลี้ยวตัดหน้ารถยนต์กระบะอย่างกระทันหัน ทำให้นายชลธิค์เบรกรถยนต์ไม่ทัน และเสียหลักพุ่งชนรถยนต์บรรทุกชาวเมียนมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนข้อเท็จจริง และพยานผู้ดเห็นเหตุการณืทั้งคนเจ็บ และชาวบ้านที่ไปพบเหตุทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง
