อุทาหรณ์เสียบชาร์จแบตรถไอติม ถูกไฟช๊อตหวิดดับพร้อมลูก

หนองบัวลำภู-อุทาหรณ์เสียบชาร์จแบตรถ ถูกไฟช๊อตหวิดดับพร้อมลูก หนุ่มอดีตคนขายไอติมจะหวนกลับไปขาย นำรถมาล้างแล้วลากสายไฟฟ้ามาต่อชาร์จแบตเตอรี่ตู้แช่  กำลังจะเสียบปลั๊กถูกไฟดูดแน่นิ่งลูกชายวิ่งมาช่วยถูกดูดอีกคนจนร้องลั่น เพื่อนบ้านวิ่งมาช่วยถอดปลั๊กออกพบอาเจียรเป็นเลือด ส่วนลูกชีพจรอ่อนต้องปั๊มหัวใจยื้อชีวิตสำเร็จบ่ายวันที่ 17 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายสมาน บุญประคม อายุ 44 ปี ที่บ้านเลขที่ 9809 หมู่ 1 ต.กุดสะเทียน อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู โดยมี ด.ช.สมพร บุญประคม อายุ 13 ปี บุตรชายอยู่ด้วยข้างกาย โดยทั้งคู่ต่างมีฝ้ายผูกแขนเรียกขวัญ ที่ข้อมือทั้งสองคน พร้อมกับสอบถามเรื่องราวเฉียดตายจากการถูกไฟฟ้าช๊อตจนถึงขั้นอาเจียรเป็นเลือด หมดสติจนถึงขั้นต้องปั๊มหายใจช่วยชีวิต
นายสมาน ได้เล่าเหตุการณ์ว่าเมื่อประมาณบ่ายสี่โมง วันที่ 14 พ.ค.61 ตนซึ่งเคยมีอาชีพขับรถขายไอศครีมเลิกไปนานนับปีแล้ว กำลังจะหวนกลับมาขายไอศครีมอีกครั้ง ก็ได้ติดต่อกับศูนย์และนำรถไอศครีมมาที่บ้าน ทำการล้างทำความสะอาด เพราะรถถูกใช้งานเปลื่ยนมือมาบ่อย เห็นว่ารถสกปรกจึงล้างและรอจนรถแห้งแล้ว จึงได้ลากสายไฟฟ้าต่อออกจากบ้านมาเพื่อเสียบชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้ต่อเข้าตัวแปลงกระแสจากกระแสตรง 12 โวลท์ เป็นกระแสสลับ 220 โวลท์ เพื่อเดินเครื่องตู้แช่ไอศครีมขณะที่คุกเข่ากับพื้นที่เปียกใช้มือซ้ายจับตัวรถและมือขวาจับแจ๊ค เพื่อเสียบเข้าตัวชาร์จแบตเตอรี่บนรถไอศครีมก็ถูกไฟช๊อตร่าง จนร่างชาจะร้องตะโกนก็ไม่ได้ แล้วหมดสติมารู้สึกตัวก็ตอนที่อยู่โรงพยาบาล และเพิ่งรู้ว่า ด.ช.สมพร ลูกชายได้เข้ามาช่วยก็ถูกไฟฟ้าช๊อตหมดสติไปอีกคน ส่วนสาเหตุคาดว่าในรถน่าจะมีสายไฟรั่ว ซึ่งหลังเกิดเหตุทางเอเยนต์ไอศครีมก็ได้นำรถกลับคืนไปแล้ว นางลำดวน มูลละ อายุ 49 ปี และ น.ส.หทัยชนก มูลละ อายุ 19 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ได้ยินเสียงร้องวิ่งออกมาดูเห็นสองพ่อลูกกำลังถูกไฟช๊อตจึงตะโกนเรียกเพื่อนบ้านให้เข้ามาช่วย มีคนวิ่งเข้าไปถอดปลั๊กไฟในบ้านออก แล้วเข้าไปช่วยสองพ่อลูก ขณะนั้นนายสมาน อาเจียรออกมาเป็นเลือดหมดสติ ด.ช.สมพร ร่างไม่ไหวติงคนที่มีความรู้ได้อุ้มร่างพาดบ่า ก่อนจะวางราบลงช่วยปั๊มหัวใจจนฟื้นชึ้นมา ขณะที่คนอื่น ๆ โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือกู้ชีพน.ส นฤมล ศิริพงศ์วรนาถ กู้ภัยมังกรศรีบุญเรือง เปิดเผยว่า ขณะที่มารับคนเจ็บก็ได้ประสานข้อมูลระหว่างชาวบ้านที่แจ้งเหตุ และกู้ชีพโรงพยาบาลศรีบุญเรือง เพื่อเช็คอาการตลอดเวลา จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุพบคนเจ็บรู้สึกตัวแต่ยังพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลและประสานรถกู้ชีพมารับระหว่างทาง เห็นคนเจ็บทั้งสองก็ทราบว่าอาการหนัก เพราะอาเจียรเป็นเลือด ขณะที่อีกคนต้องปั๊มหัวใจจนฟื้น โชคดีที่ถึงมือแพทย์ทันเวลาและรักษาอาการจนปลอดภัย ก็ฝากเตือนชาวบ้านเมื่อใช้ไฟฟ้าให้ใช้ความระมัดระวัง เหตุร้ายอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา