หนองบัวลำภู- อดีตผู้ใหญ่บ้านตาย ภรรยาและญาติยังติดใจสาเหตุ ที่ไปเสียชีวิตที่ จ.บุรีรัมย์ แพทย์ระบุสาเหตุจากหัวใจล้มเหลว แต่ตำรวจส่งผ่าพิสูจน์พบปอดแตก ซี่โครงหัก
อดีตผู้ใหญ่บ้าน
วันที่ 16 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากญาติของ นายตัน บุญวิเทียน อายุ 57 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 บ.ท่าโพธิ์ชัย ต.บ้านพร้าว อ.เมืองหนองบัวลำภู ขอให้ช่วยเป็นสื่อกลางในการติดตามคดี กรณีการเสียชีวิตของนายตัน เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.61 ที่ รพ.เอกชนบุรีรัมย์ อ.เมืองบุรีรัมย์ โดย นางละเบียง บุญวิเทียน อายุ 53 ปี ภรรยาของนายตัน ได้เปิดเผยว่า สามีได้ร่วมเดินทางไปกับเพื่อน มีนายไชยชาญ มาตา อดีตผู้สมัคร ส.ส. จ.หนองบัวลำภู นายสำลี กุลวงษ์ อายุ 69 ปี และนายลอย ไม่ทราบนามสกุล โดยอาศัยรถของ นายไชยชาญ มาตา เดินทางออกจากบ้านประมาณห้าโมงเย็น วันที่ 11 ธ.ค.61 และได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่าสามีของตนเสียชีวิต ให้มาติดต่อกับพนักงานสอบสวน
หลังจากนั้นวันที่ 12 ธ.ค.61 นายไชยชาญ มาตา ก็ขับรถจาก จ.บุรีรัมย์ มารับตนที่บ้านเพื่อไปติดต่อรับศพสามี เบื้องต้นทราบว่าศพถูกส่งมาที่ รพ.บุรีรัมย์ และตำรวจได้ส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.สุรินทร์ เบื้องต้นพบว่าสามีตับแตกและซี่โครงหัก 3 ซี่ ขณะที่ใบมรณะบัตร ระบุเสียชีวิตที่ รพ.เอกชน จ.บุรีรัมย์ สาเหตุจากมีภาวะหัวใจล้มเหลว โดยผู้ที่แจ้งการเสียชีวิตคือ นางอุไรพร คงอาษา ภรรยาของนายไชยชาญ มาตา สอบถามนายไชยชาญ และคนที่ไปด้วยบอกว่าผู้ตายล้มที่ห้องน้ำในบ้านของนายไชยชาญ
นางละเบียง เล่าต่อไปว่า สอบถามพนักงานสอบสวน ทราบว่าตำรวจสงสัยสาเหตุการตาย จึงได้ส่งศพไป รพ.บุรีรัมย์ แต่แพทย์และเครื่องมือไม่พร้อม จึงส่งต่อไปที่ รพ.สุรินทร์ ซึ่งญาติได้ติดตามไปดูและทราบเบื้องต้นว่าตับแตกและซี่โครงหัก ซึ่งไม่น่าเชื่อล้มในห้องน้ำจะทำให้ถึงกับตับแตกซี่โครงหักได้ แต่หลังจากผ่าพิสูจน์แล้วก็ได้นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศล และเคลื่อนศพไปฌาปนกิจที่วัดป่ามฤคทายวัน วัดใกล้บ้านในวันนี้ ส่วนสาเหตุการตายตนก็ขอให้เกิดความชัดเจน ว่าเกิดจากการล้มในห้องน้ำ หรือว่าถูกทำร้าย และพร้อมรับฟังคำตอบที่ชัดเจน
สมัครสมาชิก Line รับข่าวสารจังหวัดหนองบัวลำภูได้ที่นี่
นายสำลี กุลวงษ์ อายุ 69 ปี ผู้ที่ร่วมเดินทางในวันเกิดเหตุ เล่าว่า วันเกิดเหตุผู้ตายได้มาหาตนที่บ้านในสภาพเมา มีการดื่มเหล้าซึ่งก็ได้กินเหล้าขาวด้วยกันอีก 2 ขวดเล็ก และผู้ตายได้โทรศัพท์หานายไชยชาญ ว่าจะไปซื้อปลาที่เขื่อนอุบลรัตน์มาทำอาหารกิน และนายไชยชาญ ก็ขับรถปิคอัพ มิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน กจ 6811 เลย มาหาพร้อมด้วยนายลอย จากนั้นก็ชวนกันไป นายไชยชาญบอกจะไปงานศพญาติที่บ้าน จ.บุรีรัมย์ ก็ไปด้วยกันระหว่างทางก็กินเหล้ากันไปทุกคนหมดไป 3 ขวด แวะไปร้านคาราโอเกะที่ อ.พล จ.ขอนแก่น ก็กินเหล้าหมดไปอีก 2 แบน แล้วแวะซื้อสาโทอีก 4 ขวด จนกระทั่งไปถึง จ.บุรีรัมย์ ผู้ตายและนายหลอดไปเล่นไฮโล ตนก็เมาไม่รู้เรื่อง กระทั่งกลับมาที่บ้านของนายไชยชาญ พากันพักผ่อนก็ได้ยินเสียงผู้ตายร้องให้ช่วย ไปดูก็พบนอนฟุบอยู่ในห้องน้ำ คิดว่าเมาหนัก จึงพยุงมานอนพักประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นท่าไม่ดีจึงนำส่ง รพ.เอกชนบุรีรัมย์ ถึงทราบว่าเสียชีวิตไปแล้ว
นายประกฤษ ทาวัน อายุ 57 ปี ส.อบต.บ้านพร้าว ที่ร่วมเดินทางไปรับศพผู้ตาย เปิดเผยว่า ไปรับศพวันที่ 13 ธ.ค.61 โดยผู้ตายถูกผ่าชันสูตรบริเวณช่องท้อง ซึ่งได้สอบถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ก็บอกว่าตับแตกและซี่โครงหัก 3 ซี่ เจ้าหน้าที่ยังถามว่าจับคนก่อเหตุได้หรือยัง ซึ่งทำให้พวกตนสงสัยว่าสาเหตุการตายน่าจะไม่ใช่จากการล้มในห้องน้ำ ซึ่งได้สอบถามนายสำลี ก็ทราบว่านายไชยชาญถอยรถไปชนเสาไฟฟ้าที่บ้านของหลานตอนนั้นเห็นผู้ตายไหม ซึ่งนายสำลี บอกว่าเมามองไม่เห็น นอกจากนี้ นายไชยชาญ ยังได้ขับรถจาก จ.บุรีรัมย์ มารับ นางละเบียง ที่ จ.หนองบัวลำภู เพื่อให้ไปรับศพผู้ตายออกจากโรงพยาบาล ขณะที่ญาติก็เตรียมเดินทางไปรับศพกันแล้ว ก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงไม่รออยู่ที่นั่น
ขณะที่ นายไชยชาญ มาตา ได้เดินทางมาที่งานศพ และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันเกิดเหตุผู้ตายได้โทรศัพท์ชวนตนไปซื้อปลามาทำอาหาร ตนก็มาพร้อมกับนายลอย แล้วบอกกับผู้ตายว่าจะไปงานศพญาติที่บ้าน จ.บุรีรัมย์ ถ้าจะไปด้วยก็ไปจากนั้นก็พากันไปโดยบอกเมียผู้ตายที่บ้านก่อน ระหว่างทางก็กินเหล้าไปด้วยหมดไป 3 ขวด ก่อนจะแวะร้านคาราโอเกะที่ อ.พล กินเหล้าหมดไปอีก 2 แบน แล้วเดินทางต่อไป จ.บุรีรัมย์ แวะซื้อสาโทระหว่างทางอีก 4 ขวด
เมื่อไปถึง จ.บุรีรัมย์ ก็ไปงานศพ ผู้ตาย กับ นายลอย เล่นโฮโล ตนก็พักที่บ้านไม่นานก็เรียกทุกคนมาพัก ระหว่างที่ไปเรียกก็ทราบว่าผู้ตายติดหนี้ไฮโลอยู่ 400 บาท ตนจึงควักตังค์จ่ายให้แทน จากนั้นก็พากันมาที่บ้านของตน ผู้ตายได้เดินเข้าห้องน้ำและร้องให้ช่วย ซึ่งตรงประตูห้องน้ำจะมีพื้นยกสูง อาจทำให้ผู้ตายสะดุดล้มได้ เพราะตรงนี้แม่ของตนก็สะดุดล้มเสียชีวิตมาแล้ว หลังจากพยุงร่างผู้ตายขึ้นมาก็เอามานอนพัก เพราะคิดว่าเมาหนัก แต่เห็นนานผิดสังเกตุจึงเข้าไปดูแลพากันนำส่งโรงพยาบาลเอกชนบุรีรัมย์ที่อยู่ใกล้ที่สุด ก็พบว่าเสียชีวิตไปแล้ว
