หนองบัวลำภู-กวดจับรถบรรทุกหินหนีไม่ทันเททิ้งกลางถนนวิ่งหนีแต่ไม่รอด จนท.กรมทางหลวงพร้อมทหารไล่กวดจับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน หลังวิ่งหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้าน แล้วเทหินทิ้งลงหน้าบ้านชาวบ้านและกลางถนน ก่อนจวนตัววิ่งหลบหนีไม่รอด พบบรรทุกรวมกว่า 90 ตัน
โชเฟอร์โกยแน่บ
เวลา 02.00 น. วันที่ 18 พ.ย. 61 นายทินกร ทองบุญมา เจ้าพนักงานทางหลวง สังกัดกรมทางหลวง ได้แจ้งขอกำลังทหารมาสนับสนุน หลังจากพยายามสกัดจับรถพ่วงบรรทุกหิน ที่ทางหลวงแผ่นดินสาย 2097 เขต ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู แต่ถูกรถปิคอัพไม่ติดป้ายทะเบียนอีกหลายคันพยายามขับประกบและบีบบังคับไม่ให้ไล่ตาม โดยทหาร กกล.รส.หนองบัวลำภู มี จ.ส.ต.ครรชิต สุวรรณอำไพ ส.อ.วิฑูรย์ นามมา ที่อยู่ในพื้นที่ อ.นากลาง ออกมาช่วยเหลือ พร้อมประสานกำลังจาก ร.อ.จีรศักดิ์ สำราญพัฒน์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ นำกำลังออกมา
จนกระทั่งรถมาถึงทางลูกรังริมถนนซอยอยู่ระหว่าง กม.20-21 เขตหมู่บ้านกู่ทอง หมู่ 10 ต.เก่ากลอย รถกรมทางหลวงที่จอดอยู่มีรถปิคอัพไม่ติดป้ายทะเบียนจอดประกบปิดหน้าหลังห่าง ๆ พอกำลังทหารมาถึงก็พากันขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงวิ่งเข้าไปตรวจสอบรถต้องสงสัยเป็นรถพ่วง ฮีโน่ สีขาว ทะเบียนหัวพ่วง 80-0220 เลย ลูกพ่วงไม่ติดทะเบียน กำลังเทหินส่วนลูกพ่วงลงกลางถนนในหมู่บ้าน เมื่อกำลังไปถึงคนขับรถเห็นท่าไม่ดีได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทาง ทหารวิ่งไล่กวดจนจับตัวได้ ทราบชื่อคือ นายอรรถกฤษ สีแสง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ต.อีปุ่ม อ.ด่านซ้าย จ.เลย คุมตัวมาตรวจสอบภายในรถพบใบชั่งน้ำหนักจากโรงโม่หิน ระบุน้ำหนัก 71,800 ก.ก. เกินที่กฎหมายกำหนดที่ 50,500 ก.ก. อยู่ 21,800 ก.ก. นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อวันที่ 16 พ.ย. บรรทุกน้ำหนักมากถึง 89,570 ก.ก. อีกด้วย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า นายอรรถกฤษ ได้ถอยรถเข้าไปในบ้านของชาวบ้านที่อยู่ติดถนน เทหินที่บรรทุกมาในส่วนหัวลงจนถึงบันได้ขึ้นบ้านเป็นกองหินขวางหน้าบ้าน จนเจ้าของบ้านตกใจตื่นขึ้นมากลางดึก ก่อนที่จะออกมาต่อส่วนหัวเข้าส่วนลูกพ่วงแล้วเทหิน ขณะกำลังเทลงบนถนนทหารก็มาถึงพอดีจึงไล่กวดจับกันดังกล่าว จากนั้นได้นำตัวส่ง พ.ต.ท.ประยุทธ์ ลายเมฆ สว.(สอบสวน) สภ.นากลาง ดำเนินคดี โดยตรวจสอบความเสียหายก่อนถึงจะแจ้งข้อหา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่ร่วมกับนายสมพร ดานุรักษ์ กำนันตำบลเก่ากลอย พบว่าบ้านที่โดนเทหินลงเลขที่ 282/1 ม.10 ต.เก่กลอย ส่วนถนนที่เทหินลงมีมิเตอร์วัดน้ำของชาวบ้านพัง 2 อัน นอกจากนี้ยังพบที่ลานแคมป์พักคนงานของชาวบ้านก็มีหินกองเรี่ยราดอีกหลายกอง ซึ่งคาดว่ามีรถพ่วงที่ถูกกวดจับ วิ่งเข้ามาเททิ้งอีกหลายคัน ซึ่งกำนันได้แจ้งให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยเฉพาะบ้านที่เข้ามาเทหินคงต้องแจ้งข้อหาบุกรุกในยามวิกาลเพิ่มเข้าไปอีก
