X

ฝนตกถนนลื่น ปิคอัพเสียหลักขวางถนน พ่วงชนขาดสองท่อน

หนองบัวลำภู-ฝนตกถนนลื่น ปิคอัพเสียหลักขวางถนน พ่วงชนขาดสองท่อน กู้ชีพกู้ภัยเร่งช่วยเหลือ งัดรถนำร่างส่งโรงพยาบาล ช่วยเหลือเต็มที่ไม่รอด เสียชีวิตสองศพ

ฝนตกถนนลื่น

ฝนตกถนนลื่น

เวลา 18.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 63 พ.ต.ต.ไพโรจน์ คำมะตะศิลา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองหนองบัวลำภู รับแจ้งอุบัติเหตุรถพ่วงชนกับรถปิคอัพ ที่ทางหลวงแผ่นดินสาย 210 หนองบัวลำภู-อุดรธานี หน้าตลาดชุมชนบ้านห้วยเดื่อ ต.โนนทัน ไปถึงที่เกิดเหตุพบกู้ชีพกู้ภัย อบต.โนนทัน รถกู้ชีพ รพ.หนองบัวลำภู กู้ภัยคุณธรรม กำลังเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่ติดอยู่ในรถเป็นชายหญิงสองคน อยู่ในรถปิคอัพฟอร์ด สี่ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน กค 4675 หนองบัวลำภู ในสภาพพังยับขาดสองท่อน อยู่ริมถนนใกล้ทางออกตลาด

ฝนตกถนนลื่น
หลังจากช่วยเหลือออกมาได้รถกู้ชีพ รพ.หนองบัวลำภู ได้นำคนเจ็บทั้งสองส่งห้องฉุกเฉินพยายามช่วยชีวิตแต่ไม่รอด เสียชีวิตทั้งสองคนทราบชื่อคนขับเป็นชายชื่อ นายพิทักษ์ ศิริสุวรรณ อายุ 37 ปี อยู่ที่หมู่ 9 ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ส่วนหญิงทราบชื่อ น.ส.รุ่งอรุณ คำบุญ อายุ 38 ปี อยู่ที่หมู่ 12 ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี จึงประสานญาติให้ทราบ ด้าน นายชาคริต ขจรสมบัติ อายุ 23 ปี อยู่ที่ ต.หนองแม่แดง อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร คนขับรถพ่วงฮีโน่ สีขาว ทะเบียน81-7698 พิจิตร ลูกพ่วง 81-7699 พิจิตร รถมีร่องรอยการชนที่ด้านหน้ามุมขวา

ฝนตกถนนลื่น
คนขับรถพ่วง เล่าเหตุการณ์ว่า ขับรถมุ่งหน้าไปทาง จ.อุดรธานี เป็นรถเปล่าฝ่าสายฝนโปรยปราย ขับลงเขาภูพานมาถึงหน้าตลาดชุมชนบ้านห้วยเดื่อ ก็เห็นรถปิคอัพคู่กรณีวิ่งสวนทางมาแล้วแฉลบน้ำที่ขังบนถนน รถขวางมาแล้วพุ่งเข้าชนรถกับตนเองที่เบรคไม่ทัน ก่อนจะกระเด็นไปที่ข้างทางจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในที่สุดดังกล่าว

ฝนตกถนนลื่น

ติดตามข่าวสารจังหวัดหนองบัวลำภู ที่นี่

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

คนหนองบัวลำภู โดยกำเนิด เข้าสู่แวดวงนักข่าวเมื่อปี 2529 เป็นนักข่าวคนเดียวของอำเภอ กระทั่งปี 1 มกราคม 2536 สถาปนาจังหวัด ก็เลยได้เป็นนักข่าวคนแรกของจังหวัดหนองบัวลำภู โดยปริยายจวบจนทุกวันนี้ ชอบถ่ายภาพ ชอบค้นหา คติประจำใจ "ทำยังไงให้คนรู้ว่านี่คือจังหวัดหนองบัวลำภู" จึงได้ตั้งเฟสบุ๊คกลุ่ม "ที่นี่..เมืองลุ่มภู" ขึ้นมาเพื่อทำให้คนได้รู้จัก