นอภ.นากลาง ตามดูจดทะเบียนสมาคมคนพิการ พบอีกสองรายค้างภาษีเป็นแสน

หนองบัวลำภู-นอภ.นากลาง เข้าเก็บข้อมูลสมาคมคนพิการที่จดทะเบียนเพื่อซื้อลอตเตอรี่ พบอีก 2 สมาคม ติดหนี้สรรพากรเป็นแสน กรรมการบางคนพิการทางสมอง คงไม่มีทางใช้หนี้ได้ เรียกยี่ปั๊วเข้ามาเคลียร์เพราะเป็นเรื่องสมยอมความคืบหน้ากรณีคนพิการที่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ถูกชักชวนให้ตั้งสมาคมเพื่อหารายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล พอเริ่มต้นก็ได้รับเงินจากยี่ปั๊วรายละ 1,000 บาท จากนั้นก็ได้เดือนละ 400 บาท ผ่านไปปีเศษก็เงียบหาย สุดท้ายเจอจดหมายสรรพากรแจ้งให้ไปยื่นแบบเสียภาษีพร้อมมีค่าปรับอีกเกือบหมื่นบาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ล่าสุดบ่ายวันที่ 12 ก.ย.61 นายณัฐวัฒน์ บุญค้ำมา นอภ.นากลาง ได้เดินทางไปที่กลุ่มงานบริการทะเบียนธุรกิจและอำนวยความสะดวกทางการค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดหนองบัวลำภู พบกับ น.ส.สุพรรษา เลิศสัมพันธ์สุข นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ เพื่อขอตรวจสอบการจดทะเบียนสมาคมคนพิการของคนพิการในอำเภอนากลางซึ่ง น.ส.สุพรรษา ได้นำหนังสือจดทะเบียนสมาคมมาให้ดูมีคนพิการมาจดทะเบียนสมาคม ในนามนิติบุคคลอยู่ 2 สมาคม ซึ่งเป็นสมาคมที่อยู่ในพื้นที่ อ.นากลาง โดยในจังหวัดมีเพียงสมาคมคนพิการ 2 แห่งนี้เท่านั้นที่จดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งต้องยื่นงบดุล และรายงานการประชุมส่งให้ทุกปีแต่ไม่พบการยื่นทั้ง 2 สมาคม ซึ่งภายหลังเข้าตรวจสอบข้อมูล นอภ.นากลาง ได้เปิดเผยว่า มีผู้จดทะเบียนสมาคมคนพิการในพื้นที่ อ.นากลาง จำนวน 3 สมาคม 2 สมาคม จดกับพาณิชย์จังหวัดซึ่งมาตรวจสอบข้อมูลในวันนี้ ซึ่งเป็นสมาคมที่ระบุชัดเจนว่ามีรายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล อีกสมาคมจดทะเบียนกับกรมการปกครอง คือที่ว่าการอำเภอนากลาง คือรายของนางเสวย ศรีเสมอ ที่เข้ามาร้องทุกข์ ซึ่งเป็นสมาคมที่ไม่แสวงหากำไร แต่ทั้ง 3 สมาคมต้องยื่นแบบรายการเสียภาษีประจำปี และตรวจสอบแล้วทั้ง 3 สมาคมไม่ได้ยื่นโดยในส่วนของ 2 สมาคม ที่จดทะเบียนสมาคมกับพาณิชย์จังหวัด ระบุชัดเจนว่ามีรายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ไม่ได้ยื่นเสียภาษี ซึ่งนอกจากจะเสียค่าปรับที่ไม่ยื่นและไม่แสดงบัญชีแล้ว ก็ยังต้องเสียภาษีจากรายได้การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อรวมแล้วแต่ละสมาคมต้องยื่นเสียภาษีเป็นเงินนับแสนบาท ซึ่งก็ได้เรียกทั้งสามสมาคมเข้าประชุมหารือ รวมทั้งให้ยี่ปั๊วที่รับหน้าที่ดูแลทั้ง 3 สมาคมเข้ามารับฟังและร่วมแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นเข้าข่ายเป็นการสมยอมระหว่างสมาคมกับยี่ปั๊ว เมื่อไม่แจ้งความเอาผิดก็ไม่เป็นคดีความ ซึ่งเบื้องต้นทางยี่ปั๊วได้เข้ามาร่วมหารือ รับจะจัดการปัญหาชำระภาษีให้ จึงได้ให้ทำบันทึกไว้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันทำให้เห็นกระบวนการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีความซับซ้อนและหากินโดยใช้ช่องว่างของกฎหมาย ซึ่งสมาคมคนพิการผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลในระดับประเทศควรหาทางเข้ามาแก้ไขปัญหา เท่าที่พบทั้ง 3 สมาคมในอำเภอนากลาง ก็เป็นกลุ่มคนพิการกลุ่มเดียวกัน กรรมการบางคนมีความพิการทางสมอง เมื่อถามว่าจะรู้ข้อกฎหมายหรือไม่คงตอบได้ยาก