บุรีรัมย์ เตรียมจัดงานเดิน วิ่ง ปั่น ปลูก ต้านยาเสพติดหวังระดมทุน รวมพลังต้านและปราบยาเสพติด (มีคลิป)

เตรียมจัดงานเดิน วิ่ง ปั่น ปลูก ต้านยาเสพติดหวังระดมทุนต้านและปราบยาเสพติด ระบุจะใช้ทุนที่ได้มาทำการเอ็ซเรย์ยาเสพติดตั้งแต่ต้นทางคือบ้าน โรงเรียน วัดให้ครอบคลุม ชี้หวังพึ่งรัฐบาลช้าและยาก เดินหน้าผลักดันใช้ค่ายทหารเป็นที่บำบัด ไม่เอาคนบ้าไปมั่วกับคนป่วยในโรงพยาบาล

วันที่ 23 พ.ค.67 ที่เทศบาลตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ฝ่ายปกครอง, ผู้นำท้องถิ่น ,การท่องเที่ยวแลกีฬา ,เจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิอาณัตพลซารัมย์” ได้ร่วมการแถลงการณ์เตรียมจัดงาน”เดิน วิ่ง ปั่น ปลูกต้านยาเสพติด”ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในวันที่ 21-23 มิ.ย.67 นี้

การจัดงานดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปด้วย จะมีการนำของดีเมืองลำปลายมาศ มีสินค้าราคาถูกจากกระทรวงพาณิชย์ มาจำหน่ายตลอดการจัดงาน 3 วัน

นายโสภณ ซารัมย์ ประธานที่ปรึกษา”มูลนิธิอาณัตพลซารัมย์”กล่าวว่า งานที่จัดขึ้นได้ใช้ชื่อว่ามหกรรมการท่องเที่ยวเมืองน่าอยู่ แต่วัตถุประสงค์หลักคือ ระดมทุนต้านภัยยาเสพติด

โดยจะใช้ทุนดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหลังจากนี้ จะใช้วิธีสร้างองค์ความรู้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้นำท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง และ อสม.ต้องไปทำความเข้าใจให้กับชาวบ้าน ถ้าจะไปหวังหรือพึ่งรัฐบาลมันยากลำบาก จะต้องพึ่งตนเองก่อน รัฐบาลก็เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่ง

สิ่งที่วางโครงการไว้คือการแก้ที่ต้นเหตุว่าทำไมเยาวชนถึงไปติดยา หลังจากได้ทุนมาเราจะเริ่มสแกนทุกโรงเรียน เพราะยาเสพติดรุกไปถึงโรงเรียนระดับประถมแล้ว โดยจะเริ่มใน 6 อำเภอ คืออำเภอหนองหงส์ ,ลำปลายมาศ ,คูเมือง ,พุทไธสง,บ้านใหม่ไชยพจน์ และอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์

ด้วยการตรวจสอบทุกคนว่าเด็กนักเรียนคนไหนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาบ้า กัญชา น้ำกระท่อม หรืออื่นๆ อย่างละเอียด โดยให้ภาคสังคมเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย

เมื่อสอบถามนายโสภณ ถึงการปราบยาเสพติดเป็นเรื่องที่ยากเหมือนการเข็นครกขึ้นภูเขา นายโสภณ กล่าวว่า สาเหตุที่ปราบได้ยากเพราะที่ผ่านมาทำหน่วยงานใครหน่วยงานมัน แต่ถ้าประชาชนเห็นว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องร่วมกันมันก็ทำได้

ที่ผ่านมาเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ การตั้งกฎหมายว่าต้องครอบครองกี่เม็ด จึงจะมีโทษนั้นมันปราบไม่ได้ ต้องให้สถานบันครอบครัวตระหนักก่อน หาวิธีป้องกันคนในครอบครัวอย่างไร โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและคอยช่วยเหลือ

นายโสภณ กล่าวดีกว่า ส่วนการบำบัดที่ดีคือ”ค่ายทหารอย่างเดียว”เพราะตอนนี้ผู้ป่วยจิตเวช หรือคนคลั่งยา ซึ่งมีมากขึ้นทุกวัน จะเอาไปกองไว้ที่โรงพยาบาลสร้างความลำบากและภาระให้กับหมอ รวมถึงผู้ป่วยปกติที่มารักษากลับได้รับความเดือดร้อนไปด้วย เพราะคนไข้กลุ่มนี้จะคลั่งและต้องคอยระวัง ดังนั้นสถานที่เหมาะสมสำหรับคนคลั่งคือ”ค่ายทหาร”ตนจะผลักดันต่อไป