บุรีรัมย์ ทหารเกณฑ์บุกชิงทองร้านทอง ระบุไม่ได้กินข้าวหลายวันไม่มีใครจ้างงาน

หนุ่มวัย 26 ปีบุกชิงแหวนทองร้านทอง 1 สลึงแล้วหลบหนี ตำรวจตามรวบทันควัน พบหนีทหารเกณฑ์ เจ้าตัวสารภาพไม่ได้กินข้าวมา 5 วันจนตาลาย สมัครงานที่ไหนไม่ได้เพราะเป็นทหาร จึงตัดสินใจก่อเหตุ เผยขายทองได้กินข้าว 5 จาน ซื้อเสื้อชุดใหม่ที่ไม่เคยได้ซื้อมานาน

วันที่ 12 มี.ค.67 เมื่อเวลา 11.00 น.พ.ต.ต.สุระชัย กมลวิบูลย์ สว.(สอบสวน)สภ.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากร้านทองว่ามีคนร้ายชิงทอง ที่ร้านทองเยาวราช เลขที่ 157 หมู่ 2 บ้านโนนดินแดง ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จึงประสานตำรวจชุดสืบสวนให้ร่วมตรวจสอบ

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบเป็นชายอายุประมาณ 25 ปี รูปร่างสันทัด จากนั้นชุดสืบสวน ได้ไล่ดูกล้องวงจรปิด จนสามารถตามจับกุมนายภานุเดช หรือเบนซ์ เทียบหว้า อายุ 26 ปี ชาวต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อตรวจสอบประวัติ พบว่ายังมีชื่อเป็นทหารเกณฑ์อยู่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์

ตำรวจนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.โนนดินแดง นายเบนซ์ รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง สาเหตุที่เข้าไปชิงทองเพราะ”หิวข้าว”ไม่ได้กินข้าวมา 5 วัน ไม่กล้าไปขอข้าววัดกินเพราะอายพระ ประกอบกับไม่มีงานทำไปสมัครงานที่ไหนเขาไม่รับเพราะยังติดทหาร

ยอมรับว่าก่อนก่อเหตุได้ยืมรถจักรยานยนต์ของญาติขี่เข้ามาตัวอำเภอโนนดินแดง เพื่อต้องการหาเงิน เมื่อขับรถผ่านร้านทองรู้สึกทันทีว่าเป็น”ขุมทรัพย์”จึงคิดวางแผนเพียง 5 นาที ประกอบกับช่วงเวลานั้นหิวข้าวจนตาลาย

หลังจากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่ อ.ละหานทราย ได้เงิน 8,300 บาท จากนั้นเอาเงินที่ได้มาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่บริเวณข้างร้านทอง แล้วไปสั่งข้าวกิน 5 จานเพื่อระบายความหิว หลังจากอิ่มข้าวจึงเข้าไปตัดผมทรงใหม่ หวังจะเอาไปอวดแฟนสาว ไม่คิดว่าตำรวจจะตามจับได้เร็วขนาดนี้

นางสาวปริชาติ กิจจาเกษมกุล อายุ 75 ปี เจ้าของร้านทอง เล่าว่า ตอนแรกคนร้ายมาขอซื้อทอง 1 บาท ลองใส่ในคอเรียบร้อยแต่สแกนจ่ายเงินไม่เข้า จึงให้ถอดทองออก ก่อนคนร้ายจะขอลองแหวนหนัก 1 สลึง แล้ววิ่งหลบหนีไปทันที

สอบถาม พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผกก.สภ.โนนดินแดง กรณีการจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดย พ.ต.อ.อนุการ ระบุว่า อ.โนนดินแดง มีวงจรปิดแทบทุกจุด มีการวางแผนเผชิญเหตุเป็นประจำ ดังนั้นถ้ามีเหตุตำรวจทุกชุดจะทำงานประสานกันอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.สามารถจับคนร้ายได้ทันที ทั้งนี้ตำรวจได้ตั้งข้อหานายภานุเดช ฐาน” วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกในการกระทำความผิด”ส่งตัวดำเนินคดีต่อไป