ตำรวจบุรีรัมย์ ตามจับข้ามจังหวัดหนุ่มนายห้อยค้าวัว อดีตพ่อค้าไก่ย่าง หลังก่อเหตุงัดบ้านครูที่บุรีรัมย์ ได้ทรัพย์สินไปกว่า 250,000 แล้วหนีไปกบดานอยู่ที่ อ.พยัคฆภฺมิพิสัย มหาสารคาม เจ้าตัวสารภาพที่ต้องก่อเหตุเพราะค้าขายหลายอย่างแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก้มกราบขอโทษครูจะรับใช้ทั้งหมด
วันที่ 3 มิ.ย.66 กรณีนางสาวจุติพร ปุราชะธัมมัง อายุ29ปี ชาวต.ดอนกอก อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับราชการครู สอนที่จังหวัดชัยภูมิ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ และร้องผ่านสื่อ ว่ามีคนร้ายเข้าไปงัดเอาทรัพย์สินภายในบ้าน คนร้ายได้ทรัพย์เป็นทองรูปพรรณ เพชร และเงินสด รวมเป็นมูลค่ากว่า 250,000 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พ.ค.อยากให้ จนท.ตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ซึ่งต่อมา พล ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ สาธิต สถิตถาวร ผกก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ , พ.ต.อ บุญธรรม สมบูรณ์ ผกก.สภ.นาโพธิ์ ให้เร่งติดตามตัวคนร้ายให้ได้ ถึงแม้จะเป็นเขตรอยต่อ 3 จังหวัดก็ตาม
จนกระทั่งตำรวจสามารถสืบทราบว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นนายศักดิ์ชัย หรือศักดิ์ บุษบุก อายุ 55 ปี ชาวอ.พยัคฆ์ภูมิพิสัย จ. มหาสารคาม จึงออกหมายจับแล้วเข้าควบคุมตัวได้ที่บ้านพัก ต่อหน้าลูกหลานที่นั่งมองนายศักดิ์ แบบช่วยเหลืออะไรไม่ได้
จากการสอบสวน นายศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนในภาพวงจรปิดจริง ได้ทรัพย์สินตามที่ผู้เสียหายแจ้งไว้จริง โดยส่วนหนึ่งได้เอาทรัพย์สินไปขายมาต่อทุนค้าขาย ทรัพย์สินอีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่บ้าน
นายศักดิ์ สารภาพด้วยว่า สาเหตุที่มาก่อเหตุ เพราะเคยขายไก่ย่างและข้าวโพดต้มริมทางมาก่อน แต่ขายไม่ดี จึงหันมาค้าขายวัว-ควาย แต่ก็ยังขาดทุน วันเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์มางานบุญบั้งไฟที่ อ.นาโพธิ์ บังเอิญไปเห็นวัวของชาวบ้าน จึงเข้าไปขอซื้อ แต่ก็ไม่มีเงินแม้จะมัดจำ จึงขับรถไปเรื่อย ๆ
กระทั่งเห็นบ้านของครูไม่มีคนอยู่จึงเข้าไปงัดบ้านและได้ทรัพย์สินมาดังกล่าว ยอมรับผิดทั้งหมด ทรัพย์สินที่เหลือจะเอามาคืนครูทั้งหมด ส่วนที่ขายไปจะหาเงินมาใช้แทนทั้งหมดเช่นเดียวกัน และกราบขอโทษครูที่ทำไปเพราะชีวิตไม่มีทางออก
