ป้าวัย 69 ปี ผสมน้ำมันเตรียมใส่เครื่องตัดหญ้า คิดได้ว่าจะก่อไฟให้หลานทำกับข้าว เอาขวดน้ำมันวางใกล้เตา เกิดบึ้มน้ำมันในขวดพุ่งสาดใส่ร่าง หลานตกใจเอาน้ำสาดใส่กลับพรึ่บขึ้นมาอีก วิ่งเข้าห้องน้ำเอาน้ำราดก่อนเอาผ้าคลุมร่างส่ง รพ.ไม่กี่ ชม.เสียชีวิต เพราะไฟไหม้ร่างเกินกว่า 70 เปอร์เซ็นต์
วันที่ 27 พ.ย.65 ญาติและชาวบ้าน ต.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เร่งนำร่างนางเสมี พุ่มพวง อายุ 69 ปี อยู่เลขที่ 5 หมู่ 10 ต.กระสัง ไปส่งโรงพยาบาลกระสัง อ.กระสัง อย่างเร่งด่วน หลังจากถูกไฟจากน้ำมันเบนซินไหม้ร่างเกือบทั่วตัว เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา
ต่อมาได้รับรายงานว่านางเสมี ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว หน่วยกู้ชีพเทศบาลอุดมธรรม อ.กระสัง จึงนำร่างกลับมาฌาปนกิจศพที่บ้านพัก ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติที่มารอรับศพเป็นอย่างมาก
นางจรัสศรี วาผัดไทย อายุ 40 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่าตอนเช้าแม่บอกว่าจะไปตัดหญ้าที่รกรอบบ้าน จากนั้นได้เอาน้ำมันเบนซินที่ซื้อมา พร้อมน้ำมัน 2 ที เพื่อเอามาผสมกันใส่เครื่องตัดหญ้าซึ่งเป็นระบบ 2 จังหวะ
ช่วงเกิดเหตุตนกับหลานนั่งอยู่ไม่ห่างกันกับแม่ โดยหลังที่แม่ผสมน้ำมันเสร็จ ได้วางขวดพลาสติดที่ผสมไว้แล้ววางลงใกล้กับเตาอั้งโล่ ก่อนจะบอกลูกว่าจะก่อไฟไห้ทำกับข้าวนะ เดี๋ยวแม่จะไปตัดหญ้า
ระหว่างที่แม่กำลังจุดไฟแช็กเพื่อจะก่อไฟ ได้เกิดเสียงดังพรึ่บขึ้นมา เห็นน้ำมันเบนซิน ซึ่งไม่ได้ปิดฝา กระฉอกออกมาจากขวด พร้อมกับเปลวเพลิงอย่างแรง ทำให้ทั้งไฟและน้ำมันกระเด็นใส่แม่ท่วมร่าง
ด้วยความตกใจตนกับหลานได้คว้าเอาถังน้ำตักน้ำสาดใส่ตัวแม่ แต่กลับเกิดไฟลุกพรึ่บขึ้นมากกว่าเดิม จากนั้นแม่ได้วิ่งเข้าไปห้องน้ำแล้วเอาน้ำสาดใส่ตัวเอง แต่ไฟยังไม่ดับ ตนจึงวิ่งไปเอาผ้าห่มมาพันตัวแม่ แล้วเรียกชาวบ้านให้มาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนแม่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สาเหตุคาดว่า หลังจากแม่ผสมระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมัน 2 ทีเสร็จแล้ว แม่ไม่ได้ปิดฝาน้ำมันไว้ ทำให้เปลวไอน้ำมันระเหยลอยออกมาจากขวดพลาสติก แล้วมากระทบกับไฟแช็กของแม่ ทำให้เกิดประกายไฟขึ้น ยอมรับว่าตกใจทำอะไรไม่ถูกในช่วงเกิดเหตุ โดยหมอแจ้งว่าไฟได้ไหม้ร่างแม่เกินกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ โอกาสรอดชีวิตมีน้อย
