X
วอยซ์ทีวี

ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาคำสั่ง กสทช.ห้ามวอยซ์ทีวีออกอากาศ

ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของ กสทช. ที่พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ช่องรายการวอยซ์ ทีวี ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

คดีนี้ผู้ฟ้องคดี (บริษัท วอยซ์ ทีวี จากัด) ฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องรายการ วอยซ์ ทีวี ของผู้ฟ้องคดี เป็นระยะเวลา 15 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป ตามหนังสือผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562

สืบเนื่องจาก ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการออกอากาศรายการ Tonight Thailand เมื่อวันที่16 ธันวาคม 2551 เวลาประมาณ 21.05 น. ในหัวข้อ สุดารัตน์ระอา ทหาร-ตร. ยังตามประกบลงพื้นที่ และได้ตรวจสอบพบการออกอากาศรายการ Wake Up News เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 07.05 น. ในหัวข้อ 10 เรื่องที่คนไทยกังวลใจเกี่ยวกับการเมืองไทย หัวข้อ รปช. ติงชัชชาติไม่รู้จริงเรื่องข้าว และหัวข้อ เฉลิมเชื่อพรรค 3 ฝ่าย ปชต. กวาด 300 ที่นั่ง วันที่ 22 มกราคม 2562 ในหัวข้อ ทักษิณสอนมวยรัฐบาลแก้ปัญหาฝุ่นละออง วันที่ 28 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 07.54น. ในหัวข้อ เสรีพิศุทธ์ ปลุก ปชช. เอา ปชต. คืนมา และวันที่ 29 มกราคม 2562 ในหัวข้อ สุดารัตน์เปิด 5 แนวทางกระเป๋าตุง หัวข้อ ชัชชาติ ประกาศดัน 6 ยุทธศาสตร์สู่ไทยยั่งยืน และหัวข้อ กกต. กดสื่อจัดผังหาเสียงคาดมี45 พรรคส่งสมัคร สส. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2

จึงมีหนังสือลงวันที่ 24 มกราคม 2562 และหนังสือลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เชิญผู้ฟ้องคดีชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณา จากนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและคำชี้แจงของผู้ฟ้องคดีเสนอต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในการประชุม ครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการเสนอรายการดังกล่าว เป็นการวิเคราะห์ข่าวสารต่อสาธารณชน ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของตน ในที่สาธารณะตามปกติในระบอบประชาธิปไตย มิได้ก่อให้เกิดความสับสนแก่ประชาชน

การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2462 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้ คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องรายการ วอยซ์ ทีวี ของผู้ฟ้องคดี จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งทางปกครองตามหนังสือ ที่ สทช 2412/5124 เรื่อง คำสั่งกำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 และเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1ในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 และเพิกถอนหนังสือบันทึกข้อตกลง ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 กับผู้ฟ้องคดี ฉบับลงวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557 และผู้ฟ้องคดีมีคาร้องขอให้ศาลทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 จนกว่าศาลจะมีคาพิพากษา

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้ความคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน และสื่อมวลชนไว้อย่างชัดแจ้ง การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จะใช้อำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตของผู้ฟ้องคดีได้ก็ต่อเมื่อเป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ฟ้องคดีมีพฤติการณ์หรือการกระทำความผิดตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 และปรากฏด้วยว่า มีความเสียหายอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการกระทeดังกล่าว

หากขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ย่อมไม่อาจออกคำสั่ง พักใช้ใบอนุญาตของผู้ฟ้องคดีได้

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มิได้เสนอว่าการออกรายการของผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงหรือไม่อย่างไร และไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้พิจารณาในประเด็นความเสียหายอย่างร้ายแรงก่อนมีมติออกคำสั่งกำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของผู้ฟ้องคดี เช่นกัน

ในชั้นนี้จึงเห็นว่าคำสั่งกำหนดโทษทางปกครองดังกล่าวน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากให้คำสั่งกำหนดโทษทางปกครองดังกล่าวมีผลต่อไป อาจเกิดความเสียหายทางธุรกิจของผู้ฟ้องคดีที่มีการสั่งสมฐานผู้ชมและความเชื่อมั่น ซึ่งไม่อาจเรียกคืนได้ จึงเป็นการยากแก่การเยียวยาภายหลัง

อีกทั้ง การทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ยังคงมีอานาจหน้าที่กำกับดูแลผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลรวมทั้งผู้ฟ้องคดีตามกฎหมาย กรณีจึงมีเหตุสมควรที่ศาลจะกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ฟ้องคดีเป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา

โดยสั่งให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งกำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของผู้ฟ้องคดี ตามหนังสือของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา คดีปกครอง พ.ศ. 2562 ประกอบกับข้อ 72 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการ ในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคาสั่งเป็นอย่างอื่น 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ทศพร โชคชัยผล

ทศพร โชคชัยผล

ทำงานข่าวกว่า 20 ปี มีความสนใจความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในหลายมิติ ผ่านประสบการณ์ทำข่าวสายเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล